
เจริญพรมายัง พระอัยกา บิชอป บาดหลวง ศาสนบริกร นักบวชชายหญิงที่รักทั้งหลาย
ขอต้อนรับทุกคนด้วยความรักเยี่ยงบิดา ขอขอบคุณพระเจ้าด้วยพระญาณสอดส่องของพระองค์ที่ทำให้พ่อสามารถมาพบพวกท่านได้ในวันนี้ ขอขอบคุณพระอัยกา อิกญาช ยูซิป ยูนาน (Ignace Youssif Younan) และ พระคาร์ดินัลหลุยส์ ซาโก (Card. Louis Sako) สำหรับการกล่าวต้อนรับด้วยมธุรสวาจา พวกเราพากันเข้ามาในอาสนวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยเลือดของบรรดาพี่น้องชายหญิงซึ่งต้องจ่ายราคาแพงสำหรับความเชื่อต่อพระเยซูคริสต์และพระศาสนจักร ขอให้ความทรงจำการเสียสละของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราฟื้นฟูความไว้ใจของพวกเราในอำนาจแห่งไม้กางเขนและสาส์นที่บ่งชี้พวกเราให้อภัยกัน คืนดีกัน และเกิดใหม่ เพราะว่าคริสตชนชนถูกเรียกร้องให้ต้องเป็นประจักษ์พยานชีวิตในความรักของพระเยซูคริสต์ทุกเวลาและทุกสถานที่ นี่คือพระวรสารที่พวกเราต้องประกาศและฝังรากลึกในประเทศอันเป็นที่รักนี้เช่นเดียวกัน
ในฐานะที่พวกท่านเป็นบิชอป ผู้นำพระศาสนจักร บาดหลวง ศาสนบริกร นักบวชชายหญิง ผู้เตรียมตัวเป็นสมณะ ครูคำสอน และผู้นำฆราวาส ท่านทุกคนมีส่วนร่วมในความชื่นชมยินดีและร่วมในความทุกข์ ในความหวังและความร้อนใจของประชาสัตบุรุษแห่งองค์พระเจ้า ความต้องการแห่งประชากรของพระเจ้าและการท้าทายในการอภิบาลที่ดูค่อนข้างจะยากลำบากที่พวกท่านต้องเผชิญทุกวัน และกลายเป็นเรื่องหนักหน่วงขึ้นไปอีกในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดนี้ แต่สิ่งที่จะต้องไม่มองข้ามหรือลดความสำคัญลงคือความร้อนรนในการประกาศข่าวดีของพวกเรา ซึ่งพวกท่านเห็นได้จากแบบอย่างของบรรพบุรุษผู้เป็นรากเหง้าตั้งแต่โบราณกาลในประเทศของพวกท่าน ซึ่งการปรากฎตนเองของพระศาสนจักรไม่เคยขาดสายในแผ่นดินนี้ตั้งแต่ยุคแรกๆ (cf. BENEDICT XVI, Post-Synodal Apostolic Exhortation Ecclesia in Medio oriente, 5) พวกเราทราบกันดีว่าเป็นสิ่งง่ายมากที่พวกเราจะติดเชื้อไวรัสแห่งการสิ้นหวัง ที่บางครั้งดูเหมือนจะแพร่กระจายรอบตัวพวกเราอย่างรวดเร็ว ทว่าพระเยซูคริสต์ทรงมอบ “วัคซีน” อันทรงประสิทธิภาพให้แก่พวกเราสำหรับต่อต้านกับไวรัสร้ายแห่งความสิ้นหวังหมดอาลัยนั้น และนี่คือความหวังที่เกิดจากการยืนหยัดในการสวดภาวนาและในความซื่อสัตย์ประจำวันในพันธกิจประกาศข่าวดีของพวกเรา โยอาศัยวัคซีนนี้พวกเราสามารถก้าวเดินออกไปด้วยพลังที่ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในการแบ่งปันความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสารในฐานะที่เป็นศิษย์ธรรมทูต และเครื่องหมายทรงชีวิตแห่งการประทับอยู่แห่งพระอาณาจักรแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ความยุติธรรม และสันติสุขของพระเจ้า
ชาวโลกรอบตัวพวกเราต้องการฟังข่าวสาส์นนั้นมากเพียงใด! ขอให้พวกเราอย่าลืมว่าพระเยซูคริสต์จะได้รับการประกาศดีที่สุดก็โดยการเป็นประจักษ์พยานแห่งชีวิต ที่เปลี่ยนไปโดยความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร ดังที่พวกเราเห็นได้จากยุคต้นๆ แห่งประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรในดินแดนเหล่านี้ ความเชื่ออันทรงชีวิตในพระเยซูคริสต์เป็นเสมือน “การแพร่ระบาดแบบโรคติดต่อ” ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แบบฉบับของบรรดานักบุญแสดงให้พวกเราเห็นว่าการเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสต์ “ไม่ใช่เป็นเพียงของแท้และถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่สวยสดงดงาม สามารถทำให้ชีวิตเปี่ยมไปด้วยความสง่างาม และมีความชื่นชมยินดีอย่างลึกซึ้ง แม้ท่ามกลางความยุ่งยากลำบากก็ตาม” (Evangelii Gaudium, ข้อ 167)
ความทุกข์ยากลำบากเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในประสบการณ์ประจำวันสำหรับประชาสัตบุรุษในประเทศอิรัก ในหลายทศวรรษที่ผ่านมาพวกท่านและประชากรร่วมชาติของพวกท่านต้องเผชิญกับผลกระทบจากภาวะสงครามและการเบียดเบียน ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐาน และการดิ้นรนเพื่อความปลอดภัยทางเศรษฐกิจทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ซึ่งบ่อยครั้งนำไปสู่การย้ายถิ่นภายในประเทศหรือหนีออกนอกประเทศของผู้คนจำนวนมากรวมถึงบรรดาคริสตชนด้วย ซึ่งจำเป็นต้องอพยพไปยังส่วนต่างๆ ของโลก ขอบคุณบรรดาบิชอปและบาดหลวง ศาสนบริกร ที่ยังอยู่อย่างใกล้ชิดกับประชาชนของพวกท่าน คอยสนับสนุนพวกเขา จัดหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ และช่วยให้พวกเขามีบทบาทของตนในการกระทำเพื่อความดีงาม คุณประโยชน์ส่วนรวม การแพร่ธรรมในด้านการศึกษาและเมตตากิจแห่งพระศาสนจักรท้องถิ่นของพวกท่าน กลายเป็นขุมทรัพย์อันมั่งคั่งสำหรับชีวิตของชุมชนพระศาสนจักรและสังคมทั่วไป พ่อขอสนับสนุนให้พวกท่านใช้ความพยายามต่อไปเพื่อจะได้สร้างหลักประกันว่าชุมชนคาทอลิกในประเทศอิรักแม้จะมีจำนวนน้อยดุจเมล็ดพันธุ์ผักกาด (เทียบ มธ. 13: 31-32) ก็ยังสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิตสังคมทั่วไปได้
ความรักของพระเยซูคริสต์เรียกร้องให้พวกเราขจัดการยึดเอาตนเองเป็นศูนย์กลางและการแข่งขันกันทุกชนิดออกไป ความรักของพระองค์ผลักดันให้พวกเราต้องเป็นสากลภาพในความเป็นหนึ่งเดียวกันและท้าทายให้พวกเราต้องสร้างชุมชนแห่งภราดรภาพที่ให้การยอมรับและเอาใจใส่ดูแลกันและกัน (เทียบ Fratelli Tutti, ข้อ 95-96) ณ จุดนี้ทำให้พ่อคิดถึงภาพละม้ายของผืนพรม พระศาสนจักรส่วนต่างๆ ในประเทศอิรักที่มีประวัติศาสตร์ในโบราณกาลอันเก่าแก่ มีจารีตพิธีเฉพาะ และมีชีวิตจิตที่เป็นอัตลักษณ์พิเศษของตนเองเป็นเสมือนเส้นด้ายที่มีสีต่างๆ ซึ่งเมื่อนำมาถักทอเป็นผืนแล้วจะกลายเป็นพรมผืนเดียวที่สวยงาม เป็นพรมที่แสดงให้เห็นถึงไม่เพียงแค่การผสานเข้ากันได้เป็นอย่างดีของเส้นด้ายสีต่างๆ แต่ยังยังชี้ให้เห็นถึงต้นตอของผืนพรมด้วย เพราะว่าเพระเจ้าเองก็ทรงเป็นศิลปินที่สร้างพรมผืนนี้ขึ้น ทรงถักทอด้วยความเพียรทนและด้วยใจจดจ่อ โดยปรารถนาที่จะให้พวกเราถูกถักทอไว้อย่างใกล้ชิดกันดุจบุตรธิดาของพระองค์ จึงขอให้พวกเราตั้งใจฟังคำเตือนใจของนักบุญอิกญาซีโอแห่งอันตีโอเกีย “อย่าให้มีสิ่งใดเกิดขึ้นท่ามกลางพวกท่านที่อาจทำให้พวกท่านแตกแยกกัน… แต่ขอให้มีการภาวนาหนึ่งเดียว จิตใจหนึ่งเดียว ความหวังหนึ่งเดียวในความรักและความชื่นชมยินดี” (Ad Magnedios, 6-7: PL 5, 667) การเป็นประจักษ์พยานชีวิตในความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้มีความสำคัญเพียงใดในโลก ที่บ่อยครั้งแหลกเหลวและแตกเป็นชิ้นๆ เพราะความแตกแยก ความพยายามทุกอย่างที่จะสร้างสะพานระหว่างชุมชนพระศาสนจักร ชุมชนวัด ชุมชนเขตศาสนปกครอง (สังฆมณฑล) และสถาบันต่างๆ จะช่วยผลักดันการประกาศพระวรสารของพระศาสนจักรในประเทศอิรักและจะเป็นการตอบสนองที่บังเกิดผลต่อการภาวนาของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงอธิษฐานภาวนาให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน (เทียบ ยน 17: 21; Ecclesia in Medio Oriente, 37)
ผู้อภิบาลเลี้ยงดูฝูงแกะพระเจ้าและประชาสัตบุรุษ บาดหลวงศาสนบริกร นักบวช นักพรต และครูคำสอนต่างช่วยกันแบ่งปันชีวิต แม้อยู่ในหนทางที่ต่างกันด้วยความรับผิดชอบเพื่อพันธกิจของพระศาสนจักร บางครั้งอาจมีการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นจนพวกเรามีประสบการณ์กับความตึงเครียดบางประการ สิ่งเหล่านี้เป็นปมเงื่อน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสานทอภราดรภาพ ซึ่งเป็นปมที่พวกเราต่างก็มีอยู่ในตัวเอง อย่างไรก็ตามพวกเราล้วนเป็นคนบาป แต่ปมเหล่านี้อาจแก้ได้ด้วยพระหรรษทาน โดยความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า ปมชีวิตอาจแก้ได้ด้วยยาแห่งการให้อภัยและด้วยการเสวนาฉันพี่น้องกัน ด้วยการอดทนกันและกัน ด้วยความเพียร (เทียบ กท. 6: 2) และด้วยการสร้างความเข้มแข็งให้แก่กันและกันในเวลาแห่งการทดลองและความยุ่งยากลำบากในชีวิต
ณ จุดนี้พ่อปรารถนาที่จะพูดเป็นพิเศษสำหรับบรรดาบิชอป ผู้อภิบาล พ่อปรารถนาที่จะไตร่ตรองถึงพันธกิจของบรรดาบิชอปในรูปแบบของความใกล้ชิด พวกเราจำเป็นต้องมีความใกล้ชิดกับพระเจ้าในการอธิษฐานภาวนา ใกล้ชิดกับประชาสัตบุรุษที่พวกเราได้รับมอบหมายให้ดูแล และใกล้ชิดกับบาดหลวงศาสนบริกรของพวกเรา ขออย่าให้พวกเขามองตัวพวกเราว่าเป็นเพียงแค่นักบริหารหรือผู้จัดการวางแผนโครงการต่าง ๆ แต่ต้องประพฤติตนเป็นบิดาที่แท้จริง ผู้ที่ห่วงใยในสวัสดิการของพวกเขา พร้อมที่จะสนับสนุนและให้กำลังใจเขาด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ติดตามพวกเขาด้วยคำภาวนา ด้วยการให้เวลา ด้วยความนิยมชื่นชอบงานและความพยายามของพวกเขาที่จะพัฒนาตนเอง ด้วยวิธีนี้ท่านจะเป็นเครื่องหมายที่มองเห็นได้และเป็นแบบฉบับของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นผู้เลี้ยงแกะที่แสนดี ผู้รู้จักแกะและมอบชีวิตให้กับพวกเขา (เทียบ ยน. 10: 14-15)
บรรดาบาดหลวงศาสนบริกร นักบวชชายหญิง นักพรต ครูคำสอน ผู้ที่กำลังเตรียมตัวเป็นสมณบริกรสำหรับพันธกิจในอนาคตที่รัก ท่านทุกคนได้ยินเสียงเรียกของพระเจ้าในดวงใจของท่านดุจซามูเอลซึ่งท่านตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่” (1 ซมอ. 3: 4) ขอให้คำตอบนั้น ซึ่งพ่อเองขอให้พวกท่านรื้อฟื้นคำนี้ทุกวัน คำตอบนี้ต้องนำท่านแต่ละคนสู่การมีส่วนร่วมในข่าวดี ซึ่งพวกเรามีพระพรและความรับผิดชอบที่ต้องประกาศข่าวดี พวกเราทราบดีว่าการบริการรับใช้ของพวกเราจำเป็นต้องมีองค์ประกอบของการบริหารจัดการ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเราควรใช้เวลาทั้งหมดของพวกเราไปในการประชุม หรือนั่งหลังโต๊ะทำงาน ขอย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญที่พวกท่านต้องออกไปอยู่ท่ามกลางฝูงแกะและมอบของขวัญแห่งการอยู่กับพวกเขา ติดตามพวกเขาทั้งในเมืองและตามหมู่บ้าน พ่อคิดถึงเป็นพิเศษกับผู้คนที่ถูกทอดทิ้ง เยาวชน คนชรา คนป่วยและคนยากจน เมื่อพวกเราบริการรับใช้เพื่อนบ้านของพวกเราด้วยความเสียสละอุทิศตนเฉกเช่นที่พวกท่านกำลังทำอยู่ในเจตนารมณ์แห่งความเมตตา ความสุภาพถ่อมตน ความใจดีและความรัก พวกเราก็รับใช้พระเยซูคริสต์นั่นเองดังที่พระองค์ตรัสกับพวกเรา (เทียบ มธ. 25: 40) และการบริการรับใช้พระเยซูคริสต์ในผู้อื่นนั้นพวกเราจะพบกับความชื่นชมยินดีที่แท้จริง อย่าเลิกรับริการบใช้ประชากรผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าซึ่งพวกท่านจะบังเกิดใหม่ในพระองค์ จงคิดถึงมารดาและ ย่า ยาย ของพวกท่าน ซึ่งนักบุญเปาโลกล่าวว่าเป็นผู้ที่เลี้ยงดูท่านในความเชื่อ (เทียบ 2 ทท. 1: 5) จงเป็นผู้อภิบาลและเป็นผู้รับใช้ประชาชนไม่ใช่รับใช้แบบเจ้าหน้าที่ จงเป็นส่วนหนึ่งแห่งประชากรของพระเจ้า ไม่ใช่แยกตัวออกมาราวกับว่าพวกท่านเป็นชนชั้นอภิสิทธิ์ จงอย่าได้ปฏิเสธสายสัมพันธ์อันทรงเกียรติ ซึ่งได้แก่ประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
ขอกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่งถึงพี่น้องชายหญิงของพวกเราที่เสียชีวิตไปในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอาสนวิหารแห่งนี้เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งพวกเรากำลังดำเนินการที่จะสถาปนาพวกเขาเป็นบุญราศีอยู่ การตายของพวกเขาเป็นเครื่องเตือนใจเราอย่างหนักหน่วงว่าภัยสงคราม ทัศนคติความเกลียดชัง การใช้ความรุนแรง หรือการนองเลือดเข้ากันไม่ได้กับคำสอนที่ถูกต้องแท้จริงของศาสนา (เทียบ Fratelli Tutti, ข้อ 285) พ่อยังปรารถนาที่จะระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากการใช้ความรุนแรงและการเบียดเบียนทุกคนไม่ว่าเขาผู้นั้นจะนับถือศาสนาใดหรือสังกัดกลุ่มใด พรุ่งนี้ (วัที่ 6 มีนาคม) ณ เมืองอูร์ (Ur) พ่อจะพบกับผู้นำศาสนาต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศนี้ และภูมิภาคนี้ เพื่อที่จะประกาศอีกครั้งหนึ่งถึงความเชื่อมั่นของพวกเราว่าศาสนาต้องรับใช้เหตุแห่งสันติสุขและความเป็นเอกภาพในหมู่ลูกหลานของพระเจ้า เย็นวันนี้พ่อปรารถนาจะขอบคุณพวกท่านสำหรับความพยายามที่จะเป็นผู้สร้างสันติสุขภายในชุมชนของพวกท่านและกับผู้ที่มีความเชื่อในนิกายต่างๆ ด้วยการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งการคืนดีกัน และการอยู่ร่วมกันฉันพี่น้องที่สามารถนำไปสู่การเกิดใหม่แห่งความหวังสำหรับทุกคน ณ จุดนี้พ่อคิดถึงเป็นพิเศษบรรดาเยาวชน เยาวชนทุกแห่งคือเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาและความหวังโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศนี้ ณ ที่นี้พวกท่านไม่เพียงแค่มีขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์อันหาค่ามิได้เท่านั้น แต่พวกท่านยังมีขุมทรัพย์อันคำนวณค่ามิได้สำหรับอนาคตด้วย บรรดาเยาวชนเอ๋ย… พวกเธอเป็นขุมทรัพย์ พ่อต้องการให้พวกเธอดูแลรักษาทรัพย์อันประเสริฐ รักษาความฝันของพวกเธอไว้ พวกเราต้องติดตามการพัฒนาและส่งเสริมความหวังของพวกเขา แม้ว่าพวกเขายังเป็นเยาวชนความอดทนของพวกเขาก็ได้ถูกทดสอบแล้วจากความขัดแย้งเป็นเวลาช้านาน แต่ขอให้พวกเราอย่าลืมว่าพร้อมกันกับผู้สูงอายุพวกเขาคือเพชรเม็ดงามของประเทศ เป็นผลไม้ที่มีค่ามากที่สุดของต้น นั่นขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะช่วยกันส่งเสริมการเจริญเติบโตของพวกเขาในความดีงามและหล่อเลี้ยงพวกเขาในความหวัง
ลูก ๆ และ พี่น้องชายหญิงที่รัก โดยอาศัยศีลล้างบาป ศีลกำลัง และต่อมาศีลบวชหรือการถวายตัวเป็นนักบวช พวกท่านได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์เป็นบุคคลของพระเจ้าและถูกส่งออกไปเป็นศิษย์ธรรมทูตในดินแดนนี้ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์แห่งความรอด ท่านเป็นส่วนหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์นี้ด้วยการเป็นประจักษ์พยานชีวิตที่ซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระเจ้า ในขณะที่พวกท่านพยายามที่จะสร้างอนาคตใหม่ ขอให้การเป็นประจักษ์พยานของพวกท่านซึ่งมีวุฒิภาวะจากความเป็นอริศัตรูกันและมีความเข้มแข็งจากโลหิตของมรณะสักขี จงเปล่งรัศมีออกมาในประเทศอิรักและเลยออกไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าและเพื่อทำให้ประชากรมีความชื่นชมยินดีในพระเจ้าผู้เป็นพระผู้ไถ่ของชาวเรา (เทียบ ลก. 1: 46-47)
อีกครั้งหนึ่งพ่อขอขอบคุณที่ทำให้พวกเรามีโอกาสมารวมตัวกัน ณ ที่นี่ ขอพระมารดาแห่งความรอด และอัครสาวกโทมัสวิงวอนเพื่อพวกท่านและปกป้องคุ้มครองพวกท่านเสมอ พ่อขออวยพรชุมชนของพวกท่าน และขอร้องพวกท่านภาวนาสำหรับพ่อด้วย ขอขอบคุณ!
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยอันทรงคุณค่าของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)