ข้อคิดข้อรำพึง
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต ปี C
จงรับใช้พระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
มีบางคน กิน ดื่ม หลับนอน แบบนักธุรกิจ เขาฝันว่าวันหนึ่งจะกลายเป็นเศรษฐีใหญ่ หรือเป็นประธานบริษัทใหญ่ ด้วยเหตุนี้ เขาต้องตื่นแต่เช้าตรู่ และเข้านอนดึกดื่น เขาคิดและทำทุกอย่างเพื่อธุรกิจของเขาเท่านั้น หรือบางทีคนที่อยากได้รับการเลือกตั้งทางการเมือง หรือคนที่อยากเป็นดาราภาพยนตร์ หรือเป็นนักกีฬาไปแข่งโอลิมปิก พวกนี้ต่างก็ทุ่มเทเพื่อไปตามทางที่เขาวาดหวังไว้อย่างเต็มที่
บางคนปลุกนาฬิกาทุกชั่วโมงเพื่อจะได้ไปดูแลกล้วยไม้ หรือต้นไม้ดอกไม้ หรือสวนสวยที่ตัวเองชอบ บ้างเอาใจใส่แต่ในเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเองให้ดูสวยงาม คอยชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขา ยึดเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของพวกเขา
พระวรสารอาทิตย์นี้ พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น” แต่เรากลับเห็นผู้คนส่วนมากในโลกขณะนี้ กำลังกราบนมัสการ เงินตรา ชื่อเสียง และอำนาจ อย่างเต็มเวลาเสียด้วย ตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด เขานำสิ่งเหล่านี้มาไว้เป็นศูนย์กลางของชีวิต และผลักพระเจ้าออกไปอยู่ปลายๆ ของชีวิตเขา เงินเป็นศูนย์กลางของเขา ส่วนพระเจ้าเป็นเพียงผู้ช่วยของเขาเท่านั้น ให้เราถามตัวเองว่า เราได้คิดและได้ทำอย่างนี้หรือเปล่า คือ ผลักดันพระเจ้าให้ไปอยู่ปลายขอบแห่งชีวิตเรา ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราต้องตระหนักว่า เรากำลังแพ้การผจญของปีศาจ พระเยซูเจ้าทรงถูกผจญจากปีศาจเหมือนกัน และไม่ใช่ผจญแค่เรื่องเดียว แต่เป็นสามเรื่องใหญ่ๆ ที่ครอบงำและมีอิทธิพลต่อความเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ทรงมอบความไว้วางใจทั้งหมดไว้ในพระเจ้า กลางดวงพระทัยของพระองค์มีแต่พระเจ้าและแผนการของพระบิดาเท่านั้น พระองค์ผลักดันปีศาจและความคิดที่มันนำมาเป่าหูให้ออกไปห่างไกล ตกขอบไปจากความคิดของพระองค์เลย และเมื่อปีศาจไม่สามารถเอาชนะพระองค์ได้ มันจึงจากไป
พระเยซูเจ้าทรงเป็นเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายในอดีตที่ปรากฏเรื่องราวอยู่ในพระคัมภีร์ ที่มีประสบการณ์ของการอยู่อย่างโดดเดี่ยวในทะเลทราย เช่น โมเสสก็เคย ประกาศกเอลียาห์ก็เคย ท่านยอห์น บัปติสต์ก็เคย การอยู่ในทะเลทราย ในที่โดดเดี่ยว ในที่เงียบสงบ มักจะมีการผจญเช่นนี้แหละ แต่ท่านเหล่านั้นได้พบชัยชนะต่อการผจญ ด้วยการมอบความไว้วางใจอย่างหมดหัวใจให้แด่พระเจ้า
ในช่วงเวลาแห่งเทศกาลมหาพรต ยังมีเวลาอีก 40 วันที่เราจะถูกผจญจากปีศาจ เช่นที่มันเคยผจญคนทุกคนมาแล้ว คนมากมายพ่ายแพ้ต่อมันเพราะขาดความระมัดระวัง เพราะคิดว่ามันไม่เจ๋งจริง ที่จริงปีศาจชอบให้เราคิดว่ามันไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ เราจะได้ทำอะไรตามอำเภอใจ และตามพละกำลังของเรา แล้วเราก็จะตกไปในบ่วงของมันจนยากจะปีนขึ้นมาได้
แต่ขอให้เราคิดในแง่บวก ช่วงเวลาอีก 40 วันเป็นช่วงเวลาแห่งพระพร และความโปรดปรานของพระเจ้า เป็นช่วงเวลาที่เราจะค่อยๆ ฝึกฝน ทำกิจการกุศล ทำพลีกรรม ปราบกิเลศตัณหา โดยทุ่มหัวใจทั้งหมดไว้ที่พระเจ้าของเรา มอบความไว้วางใจในพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม และมีพระองค์แต่เพียงผู้เดียวอยู่ตรงกลางใจของเรา
(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2010)