วันเสาร์, 19 เมษายน 2568
  

คำปราศรัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประทานแก่นักศึกษาวิทยาลัยเบลเยี่ยมในสังกัดสันตะสำนัก

ลูก ๆ และ พี่น้องที่รัก

        พ่อมีความยินที่ได้ต้อนรับพวกท่านในโอกาสครบรอบ 175 ปีของวิทยาลัยเบลเยี่ยมในสังกัดสันตะสำนัก (Pontifical Belgian College) ซึ่งนักบุญจอห์น พอล 2 เคยเป็นศิษย์เก่า ณ สถาบันนี้ ขอขอบคุณอธิการอาร์ชบิชอปสเม็ท (Smet) สำหรับการกล่าวต้อนรับและรายงาน

        ช่วงเย็นของวันที่ 18 มีนาคม ก่อนวันสมโภชนักบุญยอแซฟ ซึ่งพวกเรายกถวายปีนี้ให้กับท่านนักบุญ และพ่อทราบว่านักบุญโยเซฟ ผู้ปกป้องพิทักษ์พระผู้ไถ่เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์วิทยาลัยเบลเยี่ยมแห่งนี้ ในฐานะที่พวกเราเป็นศาสนบริกรของพระเยซูคริสต์ พวกเราอาจพึ่งพาท่านนักบุญให้ช่วยนำความคิดดีๆ บางประการมายังพวกเราเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของผู้อภิบาลที่ดี และการทำหน้าที่เป็นบิดาต่อบรรดาสัตบุรุษ ผู้ที่ถูกมอบให้อยู่ภายใต้การอภิบาลของพวกเรา อย่างที่พวกท่านทราบกันดีการเป็นบิดาเป็นหัวข้อสำคัญในสมณลิชิต “ด้วยหัวใจของบิดา” (Patris corde) ซึ่งพ่อได้อักษรขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 150 ปีที่พวกเราประกาศว่า นักบุญโยเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนจักรสากล

        ประการแรก นักบุญโยเซฟเป็นบิดาที่ให้การต้อนรับ อันที่จริงหลังจากที่ต้องเอาชนะในการไม่อยากยินยอม และจัดการเรื่องส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ท่านนักบุญก็รักและต้อนรับมารีย์เป็นภรรยา และรับพระเยซูคริสต์เป็นบุตร ซึ่งแตกต่างจากภาพแห่งชีวิตครอบครัวที่ตนเองปรารถนา ด้วยเหตุนี้ท่านนักบุญจึงพึงพอใจและรักครอบครัวยิ่งมากขึ้น พูดอีกอย่างหนึ่งคือ โยเซฟไม่ได้หาคำอธิบายสำหรับความจริงที่แปลกประหลาดและเร้นลับที่ตนเองเผชิญ แต่กลับต้อนรับด้วยความเชื่อและแสดงความรักอย่างที่เป็นอยู่

        ในความหมายนี้นักบุญโยเซฟเป็นอาจารย์แห่งชีวิตฝ่ายจิต และการไตร่ตรองรู้จักแยกแยะ และพวกเราก็สามารถวิงวอนท่านนักบุญช่วยพวกเราให้เป็นไทจากการไตร่ตรองที่เกินเหตุจนบางครั้งเกิดหลงทาง แม้ว่าพวกเราอาจมีความตั้งใจดีที่สุดแล้วก็ตาม ทว่าการไตร่ตรองแบบหลงทางแสดงให้เห็นถึงความโน้มเอียงของพวกเราที่จะ “จับจอง” และ “เป็นเจ้าของ” สิ่งที่เกิดกับพวกเรา แทนที่จะให้การต้อนรับสถานการณ์ด้วยความยินดีก่อน อย่างที่เกิดขึ้นกับพวกเรา

        ขอให้พวกเราลองพิจารณาดู – เพื่อให้เห็นตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่อยู่ใกล้ตัวพวกเรา – มีบาดหลวงองค์หนึ่งที่เพิ่งถูกส่งไปยังวัดหนึ่งใหม่ๆ ชุมชนนั้นเพิ่งเกิดขึ้นก่อนที่คุณพ่อจะไปพำนัก ชุมชนนั้นมีประวัติศาสตร์ของตนเอง มีทั้งความชื่นชมยินดีและความทุกข์ มีทั้งความมั่งคั่งและความยากจนที่ไม่อาจจะมองข้ามได้ ในมุมมองของการอภิบาลและต้องวางแผนงานที่จะเยียวยาโดยรอชักช้ามิได้ นี่เป็นความเสียงที่พวกเราอาจตกเป็นเหยื่อหรือติดกับดัก การเป็นเจ้าวัดใหม่ก่อนอื่นต้องรักชุมชนด้วยความเต็มอกเต็มใจเพราะตนเองถูกส่งไปทำหน้าที่อภิบาลที่นั้น และค่อยๆ รักแสดงความรกต่อที่นั่น เขาจะพัฒนาชีวิตชุมชนแห่งความเชื่อขึ้นอย่างล้ำลึกจนสามารถที่จะเริ่มเดินในเส้นทางใหม่

        ดังนั้นนักบุญโยเซฟจึงเป็นบิดาในฐานะผู้ปกป้องพิทักษ์คุ้มครอง การพิทักษ์คุ้มครองเป็นส่วนที่สำคัญในกระแสเรียกและพันธกิจของพวกท่าน เป็นหน้าที่ซึ่งโยเซฟต้องเจริญชีวิต “แบบอหิงสา สุภาพถ่อมตน และเงียบสงบ ทว่าสัตย์ซื่ออย่างสิ้นเชิงโดยไม่เปลี่ยนแปลงแม้กระทั่งท่านรู้สึกว่ายากมากที่จะเข้าใจ” ท่านนักบุญดำเนินชีวิต “โดยใส่ใจเสมอต่อพระเจ้า เปิดใจสู่เครื่องหมายแห่งการประทับอยู่ของพระเจ้า และยอมรับแผนการของพระองค์และไม่ยอมที่จะทำตามอำเภอใจตนเอง” (บทเทศน์วันที่ 19 มีนาคม 2013) เพราะฉะนั้นท่านจึงทำหน้าที่ด้วยเสรีภาพภายในของผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ซึ่งปรารถนาแต่ความดีงามของผู้ที่ถูกมอบให้ท่านดูแล

        การพิทักษ์คุ้มครองสำหรับโยเซฟเช่นเดียวกับบาดหลวงทุกองค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความเป็นบิดาของท่านนักบุญ หมายถึงการรักด้วยความอ่อนโยนต่อผู้ถูกมอบหมายให้ตนดูแล โดยคิดเป็นอันดับแรกก่อนสิ่งใดถึงความดีงามและความสุขของพวกเขาโดยไม่เลือกหน้าตาและด้วยใจกว้างเสมอไป การพิทักษ์คุ้มครองเป็นทัศนคติภายในที่ทำให้พวกเราไม่ลืมผู้อื่น พิจารณาเป็นครั้งคราวว่าเมื่อใดตัวเราควรถอยสักก้าวและเมื่อใดเราควรที่จะอยู่อย่างใกล้ชิด แต่จะต้องมีหัวใจที่คอยเฝ้าระวัง ใส่ใจ และอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ

        นี่เป็นทัศนคติของผู้อภิบาลที่ไม่เคยทอดทิ้งฝูงแกะ แต่จะวางตนในทีท่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นของแต่ละกาลเวลา ผู้อภิบาลต้องรู้จักคิดล่วงหน้าเพื่อจะเปิดหนทางให้กับฝูงแกะ เพื่อจะให้กำลังใจผู้เดินตามอยู่ข้างหลัง เพื่อดูแลลูกแกะที่เดินเชื่องช้าตัวสุดท้าย นี่คือสิ่งที่บรรดาบาดหลวงถูกเรียกร้องให้ต้องกระทำในความสัมพันธ์ของตนเองกับชุมชนที่ถูกมอบหมายให้ตนดูแล นั่นคือ พวกท่านต้องเป็นผู้เฝ้าดูแล พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองตามสถานการณ์ ไม่ใช่เป็นคนประเภทยืนกระต่ายขาเดียวจน “ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนิสัยตนเอง” แม้ว่าได้คำนึงถึงการปฏิบัติพันธกิจ ซึ่งอาจเป็นสิ่งดีในตัวเอง แต่ไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของชุมชนนั้นๆ

        เมื่อผู้อภิบาลมอบความรักและรู้จักแกะของตนเอง เขาก็รู้ว่าจะทำตนเป็นผู้บริการรับใช้ของทุกคนได้อย่างไร (ดู 1 คร. 9: 19) ดังที่นักบุญเปาโลเขียนไว้ เขามิได้ยึดตนเองและความคิดของตนเป็นศูนย์กลาง แต่ยึดเอาความดี คุณประโยชน์สุขของทุกคนที่เขาถูกเรียกร้องให้ดูแลเป็นที่ตั้งสำคัญ โดยหลีกเลี่ยงการล่อลวงที่จะตั้งตนเป็นเจ้านายที่ชอบสั่งการ หรือการขาดการดูแลความเอาใจใส่อย่างละเอียดอ่อน

        สุดท้าย นักบุญโยเซฟเป็นบิดาที่ฝัน ไม่ใช่เป็น “นักฝัน” ในความหมายที่ว่าคนนั้นในหัวมีเพียงแค่เมฆหมอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งใดเลยที่เป็นความจริง ทว่าโยเซฟฝันนั้นหมายถึงท่านเป็นบุคคลที่มองเลยไปกว่าสิ่งที่ตนเห็นด้วยมิติในลักษณะของนักพยากรณ์ ท่านนักบุญสามารถยอมรับแผนการของพระเจ้าในขณะที่คนอื่นมองไม่เห็น และโดยอาศัยวิธีนี้จะทำให้ชีวิตเกิดความชัดเจนเกี่ยวกับหนทางที่จะมุ่งหน้าไป อันที่จริงนักบุญโยเซฟสามารถเห็นในพระแม่มารีย์และพระเยซูคริสต์ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่คู่ชีวิตวัยรุ่นและเด็กน้อย ท่านนุกบุญเห็นผลงานของพระเจ้าทั้งในพระแม่มารีย์และพระเยซูคริสต์เสมอ โยเซฟเห็นการประทับอยู่ของพระเจ้า

        โดยอาศัยวิธีนี้การปกป้องความเปราะบางของกุมารน้อยและพระมารดา  โยเซฟได้มองข้ามอุปสรรค รับหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบิดาโดยอาศัยการที่เชื่อในพระเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด แทนที่จะยึดในความสงสัยของตนท่านโยเซฟจึงอุทิศตนต่อพระองค์ในฐานะที่เป็นเครื่องมือเพื่อให้แผนการที่ยิ่งใหญ่กว่าของพระเจ้ากลายเป็นความจริงด้วยการรับใช้อันซ่อนเร้น ที่ใจกว้าง และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งท่านนักบุญจากโลกนี้ไปในความสงบเงียบ

        ทำนองเดียวกันสำหรับศาสนบริกรบาดหลวงจำเป็นที่เขาต้องรู้จักชุมชนที่ตนรักว่าพวกเขาฝันกันอย่างไร เพื่อจะไม่ต้องจำกัดตนเองอยู่เพียงแค่อนุรักษ์สิ่งที่เป็นอยู่ การดำรงรักษาและการปกป้องคุ้มครองอาจจะมีความหมายไม่เหมือนกัน ทว่าเป็นความพร้อมที่จะเริ่มประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของประชากรเพื่อส่งเสริมการกลับใจ และการฟื้นฟูในความหมายแห่งงานธรรมทูต และเพื่อหล่อเลี้ยงชุมชนในขณะที่ก้าวเดินไปข้างหน้า ซึ่งประกอบด้วยด้วยบรรดาศิษย์ที่ได้รับการชี้นำจากพระจิต และ “ถูกผลักดัน” ด้วยความรักของพระเจ้า (ดู 1 คร. 5: 14)

        บรรดาคุณพ่อบาดหลวงที่รัก ในปีนี้ที่พวกเรายกถวายให้กับนักบุญโยเซฟ พ่อขอเชิญชวนให้พวกท่านได้ค้นให้พบหนทางพิเศษด้วยการสวดภาวนา รำพึงไตร่ตรองถึงภาพและพันธกิจของนักบุญโยเซฟ ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่นบนอบต่อพระประสงค์ของพระองค์ โยเซฟเป็นอาจารย์ที่สุภาพในการเข้าใจที่ยิ่งใหญ่ ท่านโยเซฟนอบน้อมและมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพวกท่านมากที่จะมอบตนเอง และกระแสเรียกของพวกท่านภายใต้เสื้อคลุมของนักบุญโยเซฟ และเรียนรู้จากท่านนักบุญในศิลปะแห่งการเป็นบิดา ซึ่งในไม่ช้าพวกท่านจะถูกเรียกร้องให้ต้องปฏิบัติในชุมชนอันเป็นมิติแห่งการบริการรับใช้ในฐานะผู้อภิบาล พ่อจะติดตามพวกท่านไปในคำภาวนา และในการอวยพร และขอให้พวกท่านภาวนาสำหรับพ่อด้วยเช่นเดียวกัน  ขอขอบคุณ


Bulletin of the Holy See Press Office18 March 2021

วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยของพระสันตะปาปามาแบ่งปะนและไตร่ตรอง