อรุณสวัสดิ์ ลูก ๆ และ พี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย
ในวันอาทิตย์ที่ห้าแห่งเทศกาลมหาพรตนี้ ในจารีตพิธีได้ประกาศพระวรสารซึ่งนักบุญยอห์นเล่าเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นในช่วงสุดท้ายแห่งชีวิตของพระเยซูคริสต์ก่อนที่พระองค์จะทรงรับทรมาน (เทียบ ยน. 12: 20-33) ในขณะที่พระเยซูคริสต์ยังอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อเลี้ยงฉลองปัสกา ได้มีชาวกรีกหลายคนที่อยากรู้อยากเห็นกับสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำจึงแสดงความปรารถนาที่จะพบพระองค์ พวกเขาไปพบอัครสาวกฟีลิปขอร้องว่า “พวกเราอยากพบพระเยซู” (ข้อ 5) ขอให้พวกท่านจำประโยคนี้ไว้ “เราอยากพบพระเยซู” ฟีลิปไปบอกอันดรูว์แล้วทั้งสองก็ไปกราบทูลพระอาจารย์ ในการขอร้องของชาวกรีกเหล่านั้น พวกเราอาจสัมผัสได้กับการขอร้องที่มนุษย์ชายหญิงหลายคนจากทุกแห่งหนและสถานที่ถามพระศาสนจักรและถามเราแต่ละคน “เราอยากพบพระเยซู”
แล้วพระเยซูคริสต์ตอบการขอร้องนั้นอย่างไร? ในรูปแบบหนึ่งทำให้พวกเราต้องคิด เพราะพระองค์กล่าวว่า “เวลามาถึงแล้วที่บุตรมนุษย์จะได้รับเกียรติรุ่งโรจน์… นอกจากว่าเมล็ดข้าวสาลีจะตกลงบนดินแล้วตายไป แม้จะเป็นเพียงข้าวสาลีเพียงเมล็ดเดียว แต่ถ้ามันตายไปมันจะบังเกิดผลมากมาย” (ข้อ 23-24) คำตอบเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่เป็นคำตอบต่อการขอร้องของชาวกรีก ความจริงถ้าคิดอย่างลึกซึ้งนี่ก็ไม่ไกลกว่าคำตอบ พระเยซูคริสต์ทรงเผยให้เห็นว่าสำหรับชายหญิงทุกคนที่ต้องการพบพระองค์ พระองค์ทรงเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ซ่อนเร้นพร้อมที่จะตายเพื่อที่จะบังเกิดผล เหมือนกับพูดว่า หากท่านต้องการที่จะรู้จักตัวเรา ที่จะเข้าใจในตัวเรา จงมองไปที่เมล็ดพันธุ์ซึ่งตายไปในดิน นั่นคือ จงมองไปที่ไม้กางเขนนั่นเอง
เครื่องหมายแห่งไม้กางเขนจึงผุดขึ้นมาในความคิด ซึ่งตลอดเวลาหลายศตวรรษกลายเป็นสัญลักษณ์ยอดเยี่ยมที่สุดของบรรดาคริสตชน แม้กระทั่งทุกวันนี้ผู้ที่อยาก “พบพระเยซู” บางทีอาจมาจากประเทศและวัฒนธรรมซึ่งศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่รู้จักกัน พวกเขาจะเห็นอะไรเป็นสิ่งแรก? อะไรเป็นเครื่องหมายธรรมดาที่สุดที่พวกเขาจะพบเห็นได้? ไม้กางเขนในวัด ในบ้านของคริสตชน แม้กระทั่งที่แขวนสร้อยคอของบางคน สิ่งสำคัญคือเครื่องหมายนั้นต้องสอดคล้องกันกับพระวรสาร ไม้กางเขนสามารถที่จะแสดงความรัก การบริการรับใช้ การมอบตนเองอย่างสิ้นเชิง ซึ่งมีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่ชีวิตผู้ถวายตัวจะเป็น “ต้นไม้แห่งความรัก” ที่แท้จริง
ทุกวันนี้ก็เช่นเดียวกัน มีหลายคนบ่อยครั้งไม่มีการพูดอะไรซึ่งเป็นสิ่งปรารถนาภายในที่อยากจะ “พบพระเยซู” ที่จะรู้จักพระองค์ พวกเราจึงเข้าใจถึงความรับผิดชอบที่พวกเราคริสตชนและชุมชนของพวกเราต้องมี พวกเราก็ต้องตอบเช่นเดียวกันด้วยการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตของพวกเรา ซึ่งมอบตนเองให้ในการบริการรับใช้ ต้องเป็นชีวิตที่เรียนรู้รูปแบบของพระเจ้า – อยู่อย่างใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจ และสุภาพอ่อนโยนในการบริการรับใช้ อันหมายถึงการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความรัก ไม่ใช่ด้วยคำพูดที่ประจบประแจ แต่ด้วยการเป็นแบบฉบับที่เป็นรูปธรรม เรียบง่าย และกล้าหาญ ไม่ใช่ด้วยทฤษฎีแต่ด้วยท่าทีแห่งความรัก แล้วพระเจ้าด้วยพระหรรษทานของพระองค์ จะทำให้ชีวิตบังเกิดผล แม้เมื่อผืนดินมันอาจแห้งแล้งเพราะความเข้าใจผิด ความยากลำบาก หรือการเบียดเบียน หรือแง่ของกฎหมาย หรือจริยธรรมของสมณะ นี่คือผืนดินที่แห้งแล้ง
เพราะในการทดลองและในความสันโดษนี่เองในขณะที่เมล็ดพันธุ์ตายไปแต่กลับกลายเป็นเวลาที่ชีวิตจะงอกงามขึ้นมา เพื่อที่จะบังเกิดผลที่สุกในเวลาอันควร เป็นช่วงแห่งความเป็นความตายนี่เองที่พวกเราจะมีประสบการณ์กับความชื่นชมยินดี และผลที่แท้จริงแห่งความรักซึ่งพ่อขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า นี่เป็นรูปแบบของพระเจ้าเสมอ อยู่ใกล้ชิด เมตตา สุภาพอ่อนโยน
ขอพระแม่มารีย์พรหมจารีโปรดช่วยให้พวกเราติดตามพระเยซูคริสต์ที่จะก้าวเดินต่อไป ที่จะเข้มแข็ง และที่จะชื่นชมยินดีในหนทางแห่งการบริการรับใช้ เพื่อความรักของพระเยซูคริสต์จะได้ฉายรัศมีในทุกทัศนคติของพวกเรา และทำให้พวกเรามีลักษณะของพระเยซูคริสต์ยิ่งวันยิ่งเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเรา
คำปราศรัยหลังการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว พระสันตะปาปายังทรงตรัสต่อไป
ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก วันนี้ในประเทศอิตาลี พวกเราฉลองการรำลึกถึงผู้บริสุทธิ์ที่ตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายของแก๊งโจร แก๊งโจรมีอยู่ในส่วนต่างๆของโลก และใช้โรคระบาดเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่ำรวยด้วยการคอรัปชั่นเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น นักบุญจอห์น พอลที่ 2 ทรงประณาม “วัฒนธรรมแห่งความตาย” ของพวกเขาและพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก็ทรงประณามพวกนี้ว่าเป็น “หนทางแห่งความตาย” โครงสร้างของบาปเหล่านี้ที่เป็นโครงสร้างของพวกผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟีย ที่ขัดต่อเจตนารมณ์ในพระวรสารของพระเยซูคริสต์ พวกเขาเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นการกราบไหว้ภูตผี วันนี้ขอให้พวกเรารำลึกถึงผู้ที่ตกเป็นผู้เคราะห์ร้ายทุกคนและให้พวกเรารื้อฟื้นความตั้งใจของพวกเราที่จะต่อสู้กับพวกมาเฟีย
พรุ่งนี้ (วันที่ 22 มีนาคม) เป็นวันน้ำสากลของโลกที่เชิญชวนพวกเราให้ไตร่ตรองถึงคุณค่าแห่งของขวัญอันน่าอัศจรรย์ที่ไม่มีอะไรจะมาทดแทนได้ของพระเจ้า สำหรับพวกเราที่มีความเชื่อ “น้ำ” ไม่ใช่สินค้า ทว่าเป็นสัญลักษณ์สากล เป็นต้นกำเนิดของชีวิตและสุขภาพ ยังมีพี่น้องชายหญิงของพวกเรามากมายเหลือเกินที่เข้าถึงน้ำได้เพียงเล็กน้อย และบางทีก็เป็นน้ำที่ไม่สะอาด จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องสร้างหลักประกันว่าทุกคนต้องเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดและบริการสุขภาพ พ่อขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ทำงานเพื่อทำให้ผู้คนเข้าใจเรื่องนี้โดยเห็นถึงความสำคัญของน้ำ ขอบคุณชาวอาร์เยนตีเนียนที่ทำงานในมหาวิทยาลัยน้ำ
ขอต้อนรับทุกคนที่เชื่อมต่อกับพวกเราทางสื่อโดยเฉพาะคนป่วยและคนที่ต้องอยู่อย่างสันโดษ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันอาทิตย์ กรุณาอย่าลืมสวดภาวนาสำหรับพ่อด้วย ขอให้รับประทานอาหารกลางวันด้วยความสุข แล้วค่อยพบกันใหม่
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)