อรุณสวัสดิ์ ลูก ๆ และพี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลาย
ในพระวรสารวันนี้ (มก. 5: 21-43) พระเยซูคริสต์ทรงพบกับสถานการณ์ที่น่ากลัวที่สุดสองประการ ความตายและโรคร้าย พระองค์ทรงกระทำให้ทั้งสองคนเป็นอิสระจากความทุกข์ทั้งสองประการ เด็กหญิงตัวน้อยที่เสียชีวิตในขณะที่คุณพ่อของเธอไปขอความช่วยเหลือของพระเยซูคริสต์ และอีกรายหนึ่งเป็นสตรีที่ตกเลือดเป็นเวลาหลายปีมาแล้ว พระเยซูคริสต์ทรงปล่อยให้พระองค์ได้สัมผัสกับความทุกข์และความตายของพวกเรา แล้วพระองค์ก็ทรงกระทำเครื่องหมายสองอย่างเพื่อที่จะบอกพวกเราว่า ไม่มีความทุกข์หรือความตายใดที่จะมีอิทธิพลเหนือตัวพวกเรา พระองค์ตรัสกับพวกเราว่าความตายไม่ใช่จุดจบทุกสิ่ง พระองค์มีชัยเหนือศัตรูตัวนี้ พวกเราจะทำให้ตัวพวกเราเป็นอิสระได้โดยผ่านทางพระองค์เท่านั้น
ทว่า ณ เวลานี้ การเจ็บป่วยยังเป็นข่าวหน้าหนึ่ง พวกเรามักจะมุ่งความสนใจไปยังเครื่องหมายอีกประการหนึ่ง ได้แก่การเยียวยารักษาสตรีตกเลือดที่มากไปกว่าสุขภาพของเธอคือความรักแบบประนีประนอม ทำไมหรือ? เธอตกเลือดเพราะฉะนั้นตามความเชื่อของคนสมัยนั้นเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ไม่บริสุทธิ์ เธอเป็นหญิงที่ต้องอยู่ตามชายขอบสังคม ไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับผู้ใดเลย ไม่สามารถมีสามี ไม่สามารถมีครอบครัวและไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางสังคมทั่วไป เพราะว่าเธอเป็นคนที่ “ไม่บริสุทธิ์” และเจ็บป่วยที่ทำให้เธอเป็นคนที่ “ไม่บริสุทธิ์” เธอมีชีวิตอยู่ตามลำพังโดดเดี่ยวพร้อมกับหัวใจที่มีบาดแผลของชีวิต วัณโรคหรือ? โรคระบาดหรือ? เปล่าเลย ความเจ็บป่วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตคือขาดความรัก เธอไม่สามารถที่จะรัก หญิงผู้นั้นป่วย ใช่แล้ว เธอตกเลือด แต่ผลที่ตามมาคือการขาดความรัก เพราะเธอไม่อาจที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และการเยียวยาที่ดีที่สุดก็คือความรัก พวกเราจะพบกับความรักได้ที่ไหน? พวกเราอาจนึกถึงความรักของพวกเรา ความเจ็บป่วยหรือว่าการมีสุขภาพที่ดี? พวกเราเจ็บป่วยหรือไม่? พระเยซูคริสต์สามารถเยียวยารักษาได้
เรื่องของสตรีนิรนามผู้นี้ – พวกเราเรียกเธอเช่นนี้ “สตรีนิรนาม” – ซึ่งพวกเราทุกคนมองเห็นด้วยตัวพวกเราเองเป็นตัวอย่าง ข้อความบอกว่าเธอพยายามรักษาความเจ็บป่วยอยู่หลายครั้งแต่ไม่หายซ้ำยังรุนแรงกว่าเดิมด้วย” (ข้อ 26) พวกเราก็เช่นเดียวกันบ่อย ๆ ครั้งพวกเราทุ่มเทใปกับการรักษาที่ผิดรูปแบบเพราะขาดความรักหรือไม่? พวกเราคิดว่าความสำเร็จและเงินทองทำให้พวกเรามีความสุข แต่ความรักนั้นหาซื้อไม่ได้ ทว่าเป็นของขวัญแบบเปล่า ๆ พวกเรามักซ่อนตัวอยู่ในนามธรรมแต่ความรักเป็นสิ่งที่สัมผัสได้ พวกเราไม่ยอมรับตัวเราเองเพราะพวกเราชอบที่จะซ่อนตัวหลังฉากภายนอก ความรักไม่ได้เป็นสิ่งที่ปรากฏภายนอก พวกเราหาทางแก้ปัญหาจากนักเล่นกลและจากกูรูเพื่อที่จะพบการรักษาขณะที่พวกเราหมดเงินและขาดสันติสุขดุจสตรีผู้นั้น สุดท้ายเธอเลือกพระเยซูคริสต์และแหวกฝูงชนเข้าไปเพื่อที่จะสัมผัสกับชายภูษาของพระองค์ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือสตรีผู้นั้นต้องการสัมผัสทางกายภาพโดยตรงกับพระเยซูคริสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่พวกเราเข้าใจว่าการสัมผัสและความสัมพันธ์กันนั้นมีความสำคัญเพียงใด เช่นเดียวกันสำหรับพระเยซูคริสต์ บางครั้งพวกเราพอใจอยู่กับการปฏิบัติตามบัญญัติบางประการและย้ำการภาวนาที่บ่อยครั้งทำเหมือนนกแก้วนกขุนทอง แต่พระเยซูคริสต์ทรงประสงค์ให้พวกเราพบกับพระองค์ เปิดใจของพวกเราให้แก่พระองค์ เฉกเช่นสตรีผู้นั้นเพื่อสัมผัสภูษาของพระองค์เพื่อที่ได้รับการเยียวยารักษา เพราะด้วยการสนิทใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์ พวกเราจะได้รับการเยียวยาในความรักของพวกเรา
พระเยซูคริสต์ทรงต้องการสิ่งนี้ ความจริงพวกเราอ่านพบว่าในขณะที่ฝูงชนเบียดเสียดกันเข้ามาพระองค์ทรงทอดพระเนตรไปรอบๆ เพื่อดูว่าใครสัมผัสพระองค์ ศิษย์พากันพูดว่า “แต่พระองค์ก็เห็นว่าฝูงเบียดกันรอบพระองค์…” ทว่าพระองค์กลับทรงตอบว่า ไม่ใช่ “มีใครสัมผัสเรา?” นี่คือมุมมองของพระเยซูคริสต์ แม้ว่ามีผู้คนจำนวนมากเบียดเสียด แต่พระองค์ทรงแสวงหาใบหน้าและหัวใจของคนหนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อ พระเยซูคริสต์ไม่ได้มองคนทั่วไปเช่นพวกเรา แต่ทรงมองไปยังแต่ละบุคคล พระองค์ไม่ทรงสนพระทัยกับบาดแผลและความผิดพลาดต่าง ๆ ในอดีต ทรงมองข้ามบาปและความลำเอียงแบบผิด ๆ พวกเราทุกคนต่างก็มีประวัติเรื่องราวส่วนตัว และแต่ละคนก็มีความลับส่วนตัวที่พวกเราทราบดีถึงเรื่องอันน่าเกลียดของเราในอดีต แต่พระเยซูคริสต์ทรงทอดพระเนตรเพื่อที่หาทางเยียวยารักษา ตรงกันข้ามพวกเราชอบมองเรื่องราวที่น่าเกลียดน่าชังของผู้อื่น บ่อยครั้งเมื่อพวกเราพูดถึงคนอื่นพวกเรามักจะคุยแต่เรื่องไม่ดีของคนอื่น “นินทา” คนอื่น ตัดสินคนอื่น ขอให้ฟังพ่อ นี่จะเป็นขอบฟ้าใหม่อย่างไรกัน? ไม่เหมือนกับพระเยซูคริสต์ซึ่งมองหาหนทางเสมอที่จะช่วยพวกเราให้รอด พระองค์ทรงมองมายังพวกเราทุกวันนี้ ด้วยน้ำพระทัยดีไม่ใช่ประวัติส่วนตัวที่น่าเกลียดที่พวกเรามีอยู่ พระเยซูคริสต์ทรงมองข้ามบาป พระเยซูคริสต์ทรงมองข้ามความลำเอียง ความมีอคติ พระเยซูคริสต์ไม่ได้หยุดมองเพียงสิ่งที่ปรากฏภายนอกเท่านั้น แต่ทรงมองลึกไปถึงหัวใจ แล้วพระองค์ก็ทรงเยียวยารักษาเธอซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ใดด้วยความที่เธอเป็นหญิงที่ไม่บริสุทธิ์ พระองค์ทรงเรียกเธอด้วยความอ่อนโยน “ลูก เอ๋ย” (ข้อ 34) ลักษณะของพระเยซูคริสต์คือความใกล้ชิด เห็นอกเห็นใจและสุภาพอ่อนโยน “ลูกเอ๋ย.. “ พระองค์ทรงชมเชยความเชื่อของเธอแล้วพระองค์ก็ทรงกระทำให้เธอมีความมั่นใจในตนเอง
ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก พวกลูกพากันมาที่นี่ ขอให้พระเยซูคริสต์ทรงมองไปที่หัวใจและเยียวยาหัวใจของพวกลูก พ่อเองก็ต้องทำเช่นนี้ ขอให้พระเยซูคริสต์ทรงมองมายังหัวใจของพ่อด้วยแล้วรักษาบาดแผล และหากพวกลูกรู้สึกถึงการทอดพระเนตรของพระองค์มายังพวกลูกด้วยความอ่อนโยนแล้ว ก็ขอให้เลียนแบบของพระองค์ และปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงปฏิบัติ ขอให้มองไปรอบ ๆ ตัวของลูกเอง พวกลูกจะเห็นผู้คนมากมายดำเนินชีวิตรอบตัวของลูก พวกลูกรู้สึกว่าพวกเขามีบาดแผลและอยู่ตามลำพังโดดเดี่ยว พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นที่พวกเขาต้องได้รับความรัก จงเริ่มปฏิบัติแบบค่อยเป็นค่อยไป พระเยซูคริสต์ขอให้การมองของพวกลูกไม่หยุดอยู่เพียงแค่การมองคนอื่นเฉพาะภายนอกเท่านั้น แต่ขอให้มองแบบทะลุเข้าถึงหัวใจของพวกเขา เป็นการมองแบบเมตตาไม่ใช่เพื่อตัดสินพวกเขา จงอย่าตัดสินเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น พระเจ้าทรงรักทุกคน จงอย่าไปตัดสินพวกเขา ขอให้พวกเราดำเนินชีวิตและพยายามที่จะไปพบพวกเขาด้วยความรักเสมอ
พระสันตะปาปาปราศรัยหลังการสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus)
ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก วันนี้ซึ่งใกล้วันสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโล พ่อขอให้พวกลูกอธิษฐานภาวนาเพื่อพ่อฐานะพระสันตะปาปาด้วย ขอให้พวกลูกช่วยสวดเป็นพิเศษ พระสันตะปาปาต้องการคำภาวนาของพวกลูก พ่อขอขอบคุณ พ่อทราบว่าพวกลูกจะช่วยสวดภาวนาสำหรับพ่อเป็นพิเศษ
ในวันนี้เป็นวันอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลาง พ่อขอเชิญทุกคนช่วยวิงวอนพระเมตตาและสันติสุขของพระเจ้าสำหรับภูมิภาคนั้น ขอพระเจ้าทรงโปรดสนับสนุนผู้ที่ใช้ความพยายามดำเนินการเสวนาและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในตะวันออกกลาง ณ ที่ซึ่งเป็นที่กำเนิดของศาสนาคริสต์และยังคงสามารถดำรงความเชื่ออยู่ได้แม้จะเผชิญความทุกข์ยาก ขอพระเจ้าทรงประทานสันติสุข ความยืนหยัดมั่นคง และความกล้าหาญแก่พวกเขาทุกคน
พ่อประสงค์ที่จะรับรองถึงความใกล้ชิดของพ่อกับประชากรแห่งสาธารณะเช็คตะวันตกเฉียงใต้ที่โดนพายุเฮอรีเคนกระหน่ำอย่างหนัก พ่อภาวนาสำหรับผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและสำหรับผู้ที่ต้องทิ้งบ้านเรือนเพราะได้รับความเสียหายอย่างหนัก
พ่อขอต้อนรับลูกทุกคนที่มาจากกรุงโรม จากประเทศอิตาลี และจากประเทศต่างๆ พ่อมองเห็นพี่น้องชาวโปแลนด์ ชาวสเปน… หลายคนอยู่ทั่วไปหมด… ขอให้การเยือนหลุมศพของนักบุญเปโตรและเปาโลทำให้พวกลูกมีความเข้มแข็งในความรักของของลูกต่อพระเยซูคริสต์และต่อพระศาสนจักร
ขอให้ลูก ๆ ทุกคนมีความสุขในวันอาทิตย์ โปรดอย่าลืมภาวนาสำหรับพ่อด้วย ขอให้รับประทานอาหารกลางวันด้วยความสุข แล้วค่อยพบกันใหม่! ดีมาก เยาวชนแห่งแม่พระปฏิสนธินิรมล!
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)