
ข้อคิดข้อรำพึง
อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ปี B
ประการแรกเลยคือทำถ้วยของท่านให้ว่างเปล่า
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระลัทธิ Zen รูปหนึ่ง ชื่อว่า นาน-อิน เป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในช่วงราวสักร้อยปีมาแล้วที่ญี่ปุ่น วันหนึ่งมีศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาเยี่ยมคารวะท่าน และต้องการรู้เรื่องที่เกี่ยวกับลัทธิเซน อาจารย์นาน-อิน ออกมาต้อนรับ เชิญเข้าไปในห้องรับแขก ก่อนพูดอะไร อาจารย์นาน-อิน ก็เสริฟน้ำชาให้แขกผู้มาเยือน เทจนเต็มแก้วแล้วก็ยังคงเทต่อไปให้ล้นไปเรื่อยๆ ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยจ้องมองการกระทำนั้นสักพัก ก็ท้วงว่า “มันล้นแล้ว ไม่สามารถรับเข้าไปในแก้วได้อีกแล้ว” นาน-อิน จึงกล่าวว่า “เช่นเดียวกับแก้วนี้ ท่านมีความคิดและการคาดคำนึงของท่านเองอยู่เต็มสมองแล้ว ฉันจะอธิบายเรื่องเซนให้ท่านเข้าใจได้อย่างไร เว้นแต่ท่านจะทำให้ถ้วยของท่านว่างเปล่าเสียก่อน”
ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงเผชิญกับกลุ่มบุคคลที่เป็นเหมือนแขกของนาน-อิน คือเป็นถ้วยที่เต็มแล้ว ที่จำเป็นจะต้องทำให้ว่าง ถ้าพวกเขาต้องการได้รับข่าวสารจากพระองค์
พระเยซูเจ้าประทับอยู่ที่กาลิลี ถึงกระนั้นพวกฟาริสีและคัมภีราจารย์บางคนยังอุตส่าห์ขึ้นมาจากกรุงเยรูซาเล็มเพื่อมาถามพระองค์ว่าทำไมพวกศิษย์จึงกินอาหารโดยไม่ได้ล้างมือ (การล้างมือที่เป็นปัญหานี้ไม่ใช่การทำเพื่อมาตรการรักษาความสะอาด แต่หมายถึงพิธีกรรมที่ชำระล้างมลทินให้สิ้นไป ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการไปสัมผัสคน สัตว์ หรือสิ่งของที่เป็นมลทิน ตามกฎหมายของโมเสสกำหนดเรื่องการล้างมือเฉพาะบรรดาสงฆ์ที่จะต้องเข้าทำหน้าที่ของตนภายในพื้นที่ที่เป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ แต่พวกฟาริสีขยายการปฏิบัตินี้ไปยังสภาพแวดล้อมอื่นๆด้วย) ผู้คนเหล่านี้กล่าวหาว่าทั้งพระเยซูเจ้าและบรรดาศิษย์เป็นคนไม่ดีที่ไม่ถือตามกฎของบรรพบุรุษ ความคิดแบบนี้ครอบคลุมหัวสมอง และพลังงานทั้งหมดของพวกเขาจนไม่เหลือไว้เพื่อจะพบกับสิ่งที่ดีกว่า สิ่งที่สำคัญกว่า พวกเขาเป็นเหมือนแก้วน้ำที่เต็มเสียแล้ว การจะเทน้ำใส่เข้าไปอีก ก็จะสูญไปเสียเปล่า
พระเยซูเจ้าได้ทรงประกาศว่า สิ่งที่อยู่ในใจต่างหากที่เป็นที่มาของปัญหา “ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ทำให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์นั้นแหละทำให้เขามีมลทิน จากภายในคือจากใจมนุษย์นั้นเป็นที่มาของความคิดชั่วร้าย การประพฤติผิดทางเพศ การลักขโมย การฆ่าคน การมีชู้ ความโลภ การทำร้าย การฉ้อโกง การสำส่อน ความอิจฉา การใส่ร้าย ความหยิ่งยโส ความโง่เขลา สิ่งชั่วร้ายทั้งหมดนี้ออกมาจากภายใน และทำให้มนุษย์มีมลทิน”
คำกล่าวว่าร้ายของพวกที่โจมตีพระเยซูเจ้ากับบรรดาศิษย์คงจะออกมาจากใจที่เต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้นี่เอง เราด้วยต้องสำรวจจิตใจของเรา ว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ถ้าเต็มเปี่ยมเช่นนี้ เราก็ไม่สามารถรับเอาพระหรรษทานของพระเข้ามาในใจได้ สิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง ที่ต้องถือว่าเป็นศูนย์กลางแห่งตัวตนของเรา คือการวอนขอพระเจ้าให้ทรงสร้างจิตใจใหม่แก่เรา นี่ไม่ใช่ทำแต่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เราต้องทำแก้วของดวงใจเราให้ว่างเรื่อยๆ และให้พระองค์ทรงเติมน้ำแห่งความชื่นบานเข้าสู่จิตใจของเราอย่างต่อเนื่อง จะได้ถอนพิษร้ายจากใจของเราให้หมดไป เราจะได้กลับเป็นเหมือนเด็กที่ไร้เดียงสา ที่จะพิศเพ่งดูทุกสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเราว่าเป็นมหัศจรรย์ที่พระทรงสร้างสรรค์ขึ้นมา
(ถอดความโดย คุณพ่อวิชา หิรัญญการ
จากหนังสือ The Table of the Word, by Fr John Pichappilly)
Circa 30 AD, Jesus Christ drives the money changers from the temple, saying that they have made the Lord’s house a den of robbers. Original Artwork: Painting by Carl Bloch (Photo by Rischgitz/Getty Images)