วันพฤหัสบดี, 1 พฤษภาคม 2568

25 มีนาคม สมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ ( The Annunciation of the Lord, solemnity )

            ในวันสมโภชนี้ พระศาสนจักรเฉลิมฉลองเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ  นั่นคือ  การรับสภาพมนุษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา  พระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่นั่นเอง  เราหวนระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ที่งดงามนี้  ซึ่งเป็นหนึ่งในธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อของเราที่สำคัญมากที่สุด  และเป็นที่จดจำมากที่สุดด้วย  ทุกๆครั้งที่เราสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าว  ตอนที่กล่าวว่า  “พระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์  และเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางข้าพเจ้าทั้งหลาย” (ยน 1:14)  แสดงถึง พระเจ้าเที่ยงแท้ได้ทรงมาเป็นมนุษย์จริงๆ  อันเป็นกิจการแห่งการช่วยให้รอดของพระที่บรรลุจุดหมายที่สูงสุด  โดยทรงมอบพระองค์เองให้แก่สิ่งสร้างทั้งมวล  – โดยเฉพาะกับมนุษย์โดยตรง

            วันสมโภชนี้กระทำในวันที่ 25 มีนาคม  เพื่อให้เห็นว่าเป็นช่วงเวลาก่อนถึงวันสมโภชพระคริสตสมภพ  ซึ่งเป็นวันประสูติของพระวจนาตถ์ที่ทรงรับเอากาย  ที่จะนับต่อไปอีก 9 เดือนพอดี  ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้กันในฐานะเป็นวันสมโภชการแจ้งสารแด่พระนางมารีย์ (The Annunciation of the Blessed Virgin Mary) จนกระทั่งปัจจุบันนี้เราย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิด  จึงนำชื่อเรียกตั้งแต่โบราณกลับมาใช้ใหม่ว่า  “การแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์” (Annunciation of the Lord) และแท้ที่จริงแล้วก็เป็นการเชื่อมโยงสมโภชขององค์พระผู้เป็นเจ้าและของพระแม่มารีย์ไว้ด้วยกัน  ดังที่นักบุญ ปอลที่ 6 พระสันตะปาปา ทรงกล่าวไว้ว่า  “เป็นวันสมโภชพระวจนาตถ์ผู้ซึ่งเสด็จมาเป็นบุตรของพระนางมารีย์  และเป็นวันสมโภชของพระนางพรหมจารีย์ผู้ซึ่งได้ทรงเป็นพระมารดาของพระเจ้า”

            การแจ้งสารของทูตสวรรค์นี้นำพาเราเข้าไปสู่จุดศูนย์กลางของกระแสเรียกสองภาคส่วนด้วยกัน  กล่าวคือ  เมื่อพระบุคคลที่สองในพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ทรงมีจุดประสงค์พิเศษที่จะเสด็จมาเป็นมนุษย์  ถือเป็นกระแสเรียกในแบบจะทรงทำให้มวลมนุษย์เป็นอิสระตลอดนิรันดรจากการทำลายล้างให้เสียหายของบาปและความตาย  ในส่วนของพระนางมารีย์ก็ได้สมัครพระทัยเพื่อเติมเต็มกระแสเรียกของพระนางเอง  โดยทรงยินยอมให้แผนการที่พระเจ้าทรงดำรินี้เป็นจริงขึ้นมา  ดังนั้น  การที่พระนางตรัสว่า  “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า  ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38)  ได้ก่อให้เกิดกิจการสุดมหัศจรรย์  นั่นก็คือ ธรรมล้ำลึกเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์กลับกลายเป็นความจริงที่ครบสมบูรณ์ 

            สมโภชนี้นำเราให้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระหรรษทาน  ความมหัศจรรย์แห่งความรักของพระเจ้าที่ทรงมอบให้เราโดยอิสระ  ลึกไปกว่านั้น  ความน่าพิศวงของพระนางมารีย์  แม้ทรงดำเนินชีวิตเป็นธรรมดาอย่างที่สุด  แต่ก็ทรงได้รับการเรียกจากองค์พระผู้สร้าง  นับเป็นแบบอย่างอันดีเลิศให้กับเรา  ว่าพระองค์ก็จะทรงเรียกเราแต่ละคนให้ลุกขึ้นไปสู่การเป็นสิ่งสร้างที่น่าพิศวง ตามที่เราทุกคนควรเป็นในรูปแบบที่พระทรงสร้างสรรค์มา

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา  หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ  J.K. Mausolfe)

บทภาวนาในวันสมโภชการแจ้งสารเรื่องพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์

ข้าแต่พระแม่มารีย์  พระชนนีพระเจ้า

เมื่อทูตสวรรค์แจ้งข่าว  พระแม่ทรงวุ่นวายพระทัยและทรงหวาดกลัว

แต่พระแม่ก็ทรงรับฟัง  และเปิดพระทัยรับข่าวสารของพระเจ้าอย่างน่าอัศจรรย์

ชีวิตของพระแม่ที่เคยมีแต่ความเรียบง่าย  ดุจดังลูกทั้งหลายของอาดัม  แต่คำตอบ

“ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด”  ได้เปลี่ยนชีวิตของพระแม่  และได้นำความรอดพ้นมาสู่ชาวเราทั้งหลาย  เพราะพระแม่ได้ทรงเชิญให้พระคริสตเจ้ามาเจริญเติบโตภายในพระแม่

ข้าแต่พระชนนีพระผู้ไถ่ของชาวเรา  โปรดช่วยชาวเราให้เปิดใจน้อมรับพระประสงค์ของพระบิดาในการดำเนินชีวิต  และโปรดเสนอคำภาวนาของชาวเราต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยเทอญ

ข้าแต่พระเจ้า  โปรดเตรียมจิตใจชาวเราให้พร้อมที่จะไว้ใจในพระประสงค์ของพระองค์  โปรดส่องแสงสว่างให้ชาวเราได้เห็นหนทางของพระองค์  โปรดเปิดหูของชาวเราเพื่อจะได้ยินพระวาจาของพระองค์  โปรดวางพระหัตถ์ของพระองค์ลงบนบ่าของชาวเรา  เพื่อจะได้มีความมั่นใจในการนำของพระองค์  โปรดส่องแสงลงมาสู่จิตใจที่มืดมนของชาวเรา  เพื่อจะได้สว่างไสวไปด้วยแสงของพระองค์

ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตารัก  โปรดช่วยชาวเราให้รู้และทำตามพระประสงค์ของพระองค์  ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า  ดุจดังแบบอย่างของพระแม่มารีย์  โปรดให้ชาวเรามีจิตใจที่รู้คุณ  และโปรดช่วยให้เราภาวนาเสมอๆ  เหมือนดังพระแม่มารีย์ที่ทรงภาวนาว่า :

“วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า  พระผู้กอบกู้ข้าพเจ้า

เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์ 

 ตั้งแต่นี้ไป  ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าข้าพเจ้าเป็นสุข

พระผู้ทรงสรรพานุภาพทรงกระทำกิจการยิ่งใหญ่สำหรับข้าพเจ้า 

 พระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์

พระกรุณาต่อผู้ยำเกรงพระองค์แผ่ไปตลอดทุกยุคทุกสมัย

พระองค์ทรงยกพระกรแสดงพระอานุภาพ 

 ทรงขับไล่ผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจัดกระจายไป

ทรงคว่ำผู้ทรงอำนาจจากบัลลังก์  และทรงยกย่องผู้ต่ำต้อยให้สูงขึ้น

พระองค์ประทานสิ่งดีทั้งหลายแก่ผู้อดอยาก 

 ทรงส่งเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า

พระองค์ทรงช่วยเหลืออิสราเอลผู้รับใช้พระองค์ 

 โดยทรงระลึกถึงพระกรุณา

ดังที่ทรงสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา 

 แก่อับราฮัมและบุตรหลานตลอดไป”  (ลูกา 1:46-55)

พระสิริรุ่งโรจน์แด่พระบิดา  และพระบุตร  และพระจิต  เหมือนในปฐมกาล  บัดนี้และทุกเมื่อตลอดนิรันดร

อาแมน

(คุณพ่อวิชา หิรัญญการ  แปลจากบทภาวนา [Novena Prayer] ของวันสมโภชนี้)