วันศุกร์, 15 พฤศจิกายน 2567
  

สาส์นของพระสันตะปาปาฟรานซิสประทานแก่ผู้เข้าร่วมประชุมออนไลน์

ลูก ๆ และ พี่น้องชายหญิงที่รัก

        ขอต้อนรับทุกคนที่เข้ามามีส่วนในการสัมมนาเพื่อศึกษาเรื่อง “ความรักประจำวันของพวกเรา” (Our Daily Love) และขอแสดงคารวะเป็นพิเศษต่อพระคาร์ดินัลเควิน โยเซฟ ฟาร์เรล (Kevin Joseph Farrel) สมณมนตรีแห่งสมณสภาเพื่อฆราวาส ครอบครัว และชีวิต พระคาร์ดินัลอันเจโล เด โดนาตีส (Angelo De Donatis) แห่งเขตศาสนปกครองกรุงโรม และอาร์ชบิชอปวินเชนโซ ปาหลิอา (Vincenzo Paglia) ประธานแห่งสถาบันเทววิทยาจอห์น พอล ที่ 2 สาขาวิชาการสมรสและและชีวิตครอบครัว

        เมื่อ 5 ปีที่แล้วสมณสาส์นเตือนใจเตือนใจหลังสมัชชาซีน็อด “ความชื่นชมยินดีในความรัก” (Amoris Laetitia) เป็นการส่งเสริมความงดงามและความชื่นชมยินดีแห่งการสมรสและความรักในครอบครัว ในโอกาสครบ 5 ปีของการออกสมณสาส์นดังกล่าวพ่อขอเชิญชวนให้ท่านได้อ่านเอกสารนั้นใหม่ตลอดปีนี้ พร้อมกับไตร่ตรองเนื้อหาสาระจนกระทั่งพวกเราจะเฉลิมฉลองวันครอบครัวสากลครั้งที่สิบ ซึ่งหากเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นที่กรุงโรมในวันที่ 26 มิถุนายน 2022 พ่อรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณพวกท่านสำหรับความคิดริเริ่มของท่าน เพื่อเป้าหมายนี้และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการงานแต่ละหน้าที่ที่พวกท่านปฏิบัติ

        ในช่วงเวลาห้าปีนิ้สมณสาส์นเตือนใจ “Amoris Laetitia” ได้ชี้ให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของการเดินทางโดยพยายามที่จะสนับสนุนให้ใช้การอภิบาลแบบใหม่กับสถาพและสถานการณ์ของครอบครัว เป้าหมายหลักของเอกสารนี้เพื่อสื่อสารในเวลาที่วัฒนธรรมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างล้ำลึกจนว่าทุกวันนี้จำเป็นต้องหันมามองกันใหม่เกี่ยวกับชีวิตครอบครัวในมุมมองของพระศาสนจักร ซึ่งไม่เป็นการเพียงพอที่จะพรรณาถึงคุณค่าและความสำคัญของคำสอน หากพวกเราไม่กลายเป็นผู้ปกป้องพิทักษ์คุ้มครองความงดงามของชีวิตครอบครัว และหากพวกเราไม่ดูแลเอาใจใส่ด้วยความเมตตาต่อความอ่อนแอเปราะบาง และบาดแผลของครอบครัว

        มุมมองสองประการที่เป็นหัวใจแห่งการอภิบาลครอบครัวคือ การประกาศพระวรสาร และการติดตามครอบครัวด้วยความรักอ่อนโยน

        อันที่จริงแล้วในมุมมองหนึ่งพวกเราประกาศให้กับคู่สมรสสามีภรรยาและครอบครัวเกี่ยวกับพระวาจาที่จะช่วยให้พวกเขาทราบความหมายที่ถูกต้องของความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรักของพวกเขา ซึ่งเป็นเครื่องหมายและเป็นภาพพจน์แห่งความรักของพระตรีเอกภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูคริสต์กับพระศาสนจักร เป็นพระวาจาใหม่แห่งพระวรสาร ซึ่งคำสอนและความเชื่อทุกชนิด แม้กระทั่งเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวสามารถนำมาปฏิบัติ และเป็นพระวาจาที่เรียกร้องที่ให้มีความสัมพันธ์ที่เป็นเสรีของมนุษย์จากการเป็นทาส ซึ่งบ่อยครั้งทำให้พวกเขามัวหมองและทำให้พวกเขาไม่มีความมั่นคง เป็นเผด็จการแห่งอารมณ์ เป็นการชื่นชมสิ่งที่เป็นของชั่วคราว ที่ทำลายเจตนารมณ์ที่ดีไปจนตลอดชีวิต เป็นการยึดอยู่กับลัทธิการเห็นแก่ตัว เป็นความกลัวในอนาคต ท่ามกลางความยุ่งยากเหล่านี้พระศาสนจักรเตือนใจคู่สมรสคริสตชนให้เข้าใจถึงคุณค่าของการสมรสว่า แผนการของพระเจ้าดุจผลแห่งพระหรรษทานของพระองค์ และดุจการเรียกร้องให้เจริญชีวิตด้วยความซื่อสัตย์ต่อการที่ได้มาแบบเปล่าๆ จนถึงที่สุด นี่คือวิถีแห่งความสัมพันธ์แม้บางครั้งจะมีความล้มเหลว ความผิดพลาด และการเปลี่ยนแปลง แต่ความสัมพันธ์นี้จะเปิดประตูสู่ความชื่นชมยินดีที่สมบูรณ์ และกลายเป็นเชื้อแป้งแห่งภราดรภาพและความรักในสังคม

        ในอีกมุมมองหนึ่ง การประกาศนี้ไม่สามารถและจะไม่ต้องมาจากเบื้องบนหรือจากภายนอก พระศาสนจักรมีตรารับรองในความจริงแห่งประวัติศาสตร์เฉกเช่นพระอาจารย์ของตน และแม้พระศาสนจักรจะประกาศพระวรสารเรื่องครอบครัว ก็กระทำไปโดยอิงอยู่ในความจริงแห่งชีวิตโดยรับรู้อย่างดีถึงการต่อสู้ดิ้นรนประจำวันของคู่สามีภรรยาและพ่อแม่เกี่ยวกับการเผชิญปัญหา ความทุกข์ สถานการณ์ต่างๆ ทั้งเล็กทั้งใหญ่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหนักใจและเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของพวกเขา นี่คือบริบทแท้จริงในการดำเนินชีวิตแห่งความรักประจำวัน นี่คือหัวข้อแห่งการสัมมนาของพวกท่าน “ความรักประจำวันของพวกเรา” นี่เป็นการเลือกหัวข้อที่มีความหมาย  อันเกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นด้วยความเรียบง่ายและการทำงานกันอย่างเงียบๆ แห่งชีวิตในฐานะที่เป็นสามีภรรยากัน โดยอาศัยภาระหน้าที่ประจำวันซึ่งบางครั้งทุกคนต้องเหน็ดเหนื่อยไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา พ่อ แม่ และลูกๆ ถ้าพระวรสารจะถูกประกาศว่าเป็นคำสอนที่ล่วงหล่นมาจากเบื้องบน และไม่เข้าสู่เบื้องลึกแห่งชีวิตประจำวัน ก็จะเสี่ยงเป็นเพียงแค่ทฤษฎีและบางครั้งพวกเรามีประสบการณ์ได้เป็นเพียงหน้าที่ทางจริยธรรม พวกเราถูกเรียกร้องให้ต้องติดตาม รับฟัง เพื่อการเดินทางของครอบครัวจะดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งเข็มทิศไว้ให้พวกเขา แต่จะต้องเดินทางร่วมไปกับพวกเขา ผู้อภิบาลต้องเข้าไปในบ้านของพวกเขาด้วยจิตใจแบบอหิงสา และด้วยความรักเพื่อที่จะบอกกับสามีภรรยาว่า พระศาสนจักรอยู่กับพวกท่าน พระเยซูคริสต์อยู่ใกล้พวกท่าน พวกเราต้องการช่วยให้พวกท่านปกป้องของขวัญที่พวกท่านได้รับมา

        พวกเราต้องประกาศพระวรสารด้วยการติดตามพวกเขา และวางตัวเพื่อการบริการรับใช้ความสุขของพวกเขา โดยอาศัยวิธีนี้พวกเราสามารถช่วยครอบครัวให้เดินทางในหนทางที่สอดคล้องกันกับกระแสเรียกและพันธกิจของพวกเขา โดยการรับรู้อย่างดีถึงความงดงามแห่งสายสัมพันธ์และรากฐานของพวกเขาในความรักของพระบิดา พระบุตร และพระจิต

        เมื่อครอบครัวดำเนินชีวิตภายใต้เครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระเจ้า ซึ่งพ่อเองปรารถนาจะทำให้เกิดเป็นความเป็นจริงใน “Amoris Laetitia” จึงกลายเป็นพระวาจาทรงชีวิตของพระเจ้าผู้เป็นองค์แห่งควารมรัก ที่จริงมิติของความสัมพันธ์ในครอบครัว นั่นคือของสามีภรรยา ความเป็นพ่อ ความเป็นแม่ ความเป็นลูก และความเป็นพี่น้องกันนั้นก็คือวิธีที่อาศัยภาษาแห่งความรักที่ถ่ายทอดออกไปที่ให้ความหมายแก่ชีวิตและคุณภาพมนุษย์ต่อความสัมพันธ์กันทุกประเภทกับผู้อื่น สามีภรรยาที่แต่งงานกันทราบเรื่องนี้ดี พ่อแม่และลูกๆ เรียนรู้กันทุกวันในโรงเรียนแห่งความรักซึ่งได้แก่ครอบครัว นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทอดความเชื่อจากชนรุ่นหนึ่งสู่ชนอีกรุ่นหนึ่ง ความรักถูกถ่ายทอดด้วยภาษาของความสัมพันธ์ที่ดีที่มีอยู่ในครอบครัวทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับความขัดแย้ง และความยากลำบากด้วยกัน

        ในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดนี้ท่ามกลางความยากลำบากทั้งทางจิตใจ ทางเศรษฐกิจและสุขภาพ ทุกอย่างมีความชัดเจน ความสัมพันธ์ในครอบครัวถูกทดลองอย่างหนักหน่วง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นจุดแรกแห่งการอ้างอิง เป็นความช่วยเหลือกันอย่างเข้มแข็งที่สุด และเป็นผู้พิทักษ์ที่ผู้ใดจะมาแทนมิได้สำหรับชุมชนมนุษย์และชุมชนสังคม

        ดังนั้นขอให้พวกเราช่วยกันสนับสนุนครอบครัว ขอให้พวกเราช่วยกันปกป้องกันจากสิ่งที่จะมาทำลายความงดงามของครอบครัว ขอให้พวกเราเข้าถึงพระธรรมล้ำลึกแห่งความรัก ความน่าพิศวง ความอหิงสา และความละเอียดละอออันอ่อนไหว และขอให้พวกเราปวารณาตนเองที่จะปกป้องพิทักษ์สายสัมพันธ์อันล้ำค่า และละเอียดอ่อนนี้ซึ่งรวมถึงพ่อแม่ลูกและปู่ย่าตายาย

        ดังนั้นปีนี้ที่อุทิศให้กับครอบครัว ซึ่งเริ่มต้นในวันนี้ (19 มีนาคม) จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมที่พวกเราควรจะพิจารณาไตร่ตรองกันต่อไปถึงสมณสาส์นเตือนใจ “Amoris Laetitia” และขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับเรื่องนี้ด้วย พ่อรับรู้ว่าสถาบันจอห์น พอล ที่ 2 มีส่วนร่วมด้วยในหลากหลายวิธี เช่น การจัดสัมมนากับสถาบันวิชาการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการอภิบาล การพัฒนาชีวิตมนุษย์ การอภิบาลชีวิตฝ่ายจิต และการสนับสนุนชีวิตครอบครัว  พ่อขอมมอบพวกท่านและพันธกิจของพวกท่านแด่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งนาซาเร็ธ และขอให้พวกท่านทำเช่นเดียวกันสำหรับพ่อและพันธกิจของพ่อ

        กรุงโรม มหาวิหารนักบุญยอห์นลาเตรัน วันที่ 19 มีนาคม 2021 วันสมโภชนักบุญโยเซฟ และวันเริ่มต้นแห่งปี ครอบครัว “ความช่านชมยินดีในความรัก – Amoris Laetitia”

ฟรานซิส

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บคำปราศรัยของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)