วันศุกร์, 15 พฤศจิกายน 2567
  

สมณลิขิตในรูปแบบพระสมณะดำริ (Motu Proprio) ของพระสันตะปาปาฟรานซิสเกี่ยวกับค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่แห่งสันตะสำนัก นครรัฐวาติกัน ฯลฯ

        อนาคตทางเศรษฐกิจแบบถาวรยั่งยืนของทุกวันนี้ ส่งผลกระทบท่ามกลางสิ่งต่างๆ จึงจำเป็นต้องออกมาตรการเกี่ยวกับเงินค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ

  • เนื่องจากการขาดดุลที่เป็นลักษณะของการบริหารจัดการเศรษฐกิจของสันตะสำนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี 
  • เนื่องจากสถานการณ์ตกต่ำลงเพราะปัญหาสุขภาพอันสืบเนื่องมาจากโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อรายได้ทุกประเภทสำหรับสันตะสำนักและนครรัฐวาติกัน
  • เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าค่าตอบแทนแก่เจ้าหน้าที่เป็นรายการที่สำคัญแห่งค่าใช้จ่ายในงบประมาณแห่งสันตะสำนักและนครรัฐวาติกัน
  • เมื่อพิจารณาเห็นว่าแม้ว่าสันตะสำนักและนครรัฐวาติกันจะมีงบประมาณที่เพียงพอ ทว่าจำเป็นที่ต้องสร้างหลักประกันถึงความยั่งยืนและงบดุลระหว่างรายรับและรายจ่ายในการบริหารจัดการเศรษฐกิจและการคลังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
  • จึงถือว่าเป็นความจำเป็นที่ต้องดำเนินการในเรื่องนี้ตามมาตรฐานแห่งความสมดุลและความเจริญก้าวหน้า
  • โดยมีเป้าหมายที่จะดำรงไว้ซึ่งตำแหน่งงานในปัจจุบัน
  • โดยรับความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญแห่งสำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจ และหลังจากที่มีการตรวจสอบถึงทุกปัญหาอย่างละเอียดเกี่ยวกับประเด็นนี้แล้วข้าพเจ้าจึงออกกฤษฎีกาดังต่อไปนี้

มาตรา 1

ค่าตอบแทนสำหรับบรรดาพระคาร์ดินัล

§1 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 ที่จ่ายโดยสันตะสำนักสำหรับพระคาร์ดินัลไม่ว่าเดิมจะกำหนดไว้เท่าใดก็ตามจะลดลง 10% เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่จ่ายครั้งสุดท้าย

มาตรา 2

ค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้อาวุโส

§1 นับจากวันที่ 1 เมษายน 2021 เป็นต้นไปค่าตอบแทนไม่ว่าเดิมจะกำหนดเท่าใด ค่าตอบแทนสุทธิโดยไม่รวมค่าตอบแทนเพิ่มตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาที่จ่ายโดยสันตะสำนักและนครรัฐวาติกันต่อบุคคลที่เงินเดือนจัดอยู่ในขั้น C และ C1 จะถูกตัด 8% เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่จ่ายครั้งสุดท้าย

มาตรา 3

ค่าตอบแทนสำหรับบาดหลวงและนักบวช

§1 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2021 ค่าตอบแทนที่จ่ายโดยสันตะสำนักและนครรัฐวาติกันต่อนักบวชและสมาชิกของสถาบันผู้ถวายตัวและสถาบันแห่งชีวิตผู้ประกาศพระวรสาร ซึ่งมีเงินเดือนอยู่ในระดับ C2 และ C3 พร้อมกับอีก 10 ระดับที่ไม่ได้ทำหน้าที่บริหารจะลดเงินเดือนลง 3% เมื่อเทียบกับเงินเดือนที่รับครั้งสุดท้าย

มาตรา 4

§1 การลดเงินเดือนดังที่ระบุไว้ในมาตรา 1, 2 และ 3 จะไม่ถูกนำมาใช้ หากบุคคลที่เกี่ยวข้องแสดงหลักฐานว่าค่าตอบแทนไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายประจำสำหรับสุขภาพของตนเองและญาติระดับสอง เงื่อนไขของการใช้มาตรานี้จะมีการประเมินทุกปี เอกสารกำกับดังกล่าวต้องส่งไปยังสำนักงานดังนี้

ก) สำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจ เพื่อเจ้าหน้าที่ที่ขึ้นตรงต่อสำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจ

ข) สำนักงานนครรัฐวาติกันแผนกบุคคลากร

ค) สถาบันที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ (ลูกจ้าง) ในสังกัดแห่งสมณกระทรวงเพื่อการประกาศข่าวดีสู่ปวงชนและสถาบันที่ระบุไว้ในมาตรา 6

มาตรา 5

การเพิ่มเงินเดือนผู้อาวุโสทุกสองปี

§1 ในระหว่าง 1 เมษายน 2021 และ 31 มีนาคม 2023 การเพิ่มเงินเดือนอาวุโสทุกสองปีจะถูกระงับสำหรับบุคคลที่ระบุไว้ในมาตรา 2 และ 3 และสำหรับบุคคลที่มีสัญญาว่าจ้างในระดับ 4 ถึง 10 ซึ่งรวมทั้งสันตะสำนักและนครรัฐวาติกันซึ่ งสันตะสำนักหรือนครรัฐวาติกันเป็นผู้จ่ายเงินเดือน (ค่าตอบแทน)

มาตรา 6

หน่วยงานอื่น ๆ

§1 ข้อกำหนดแห่งมาตราข้างบนนี้ยังหมายถึงเขตศาสนปกครองแห่งกรุงโรม สำนักงานต่าง ๆ ในพระตำหนักแห่งอัครสาวก ห้องสมุดลาเตรัน อาภรณ์แห่งนักบุญเปโตร และมหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง

มาตรา 7

§1 สำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจพร้อมกับการตกลงของนครรัฐวาติกัน และหลังจากปรึกษาหารือกับกองทุนเกษียณ กองทุนเพื่อประกันสุขภาพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะออกมาตรการเพื่อปฏิบัติอย่างสอดคล้องตามกฤษฎีกาเหล่านี้

          ข้าพเจ้าขอประกาศว่าข้อกำหนดในที่นี้มีผลบังคับทันทีโดยสมบูรณ์และยั่งยืน โดยมิคำนึงถึงสิ่งที่ตรงกันข้าม และให้มีการใช้กฤษฎีกานี้ด้วยการพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ “ลอส แซวาตอเรโรมาโน” (L’Osservatore Romano) ในวันที่ 24 มีนาคม 2021 และในพระราชกิจจานุเบกษาตามลำดับ

          ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญเปโตร วันที่ 23 มีนาคม 2021 ปีที่เก้าแห่งสมณสมัยของข้าพเจ้า

ฟรานซิส

Bulletin of the Holy See Press Office, 24 March 2021

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บพระสมณดำริของพระสันตะปาปามาแบ่งปัน)