อัครธรรมทูตผู้ยิ่งใหญ่สองท่านในพระวรสารและเสาหลักสองเสาแห่งพระศาสนจักร เปโตรและเปาโล วันที่พวกเราเฉลิมฉลองการรำลึกถึงท่านนักบุญ ขอให้พวกเราพิจารณาอย่างดีกับการเป็นประจักษ์พยานแห่งความเชื่อของทั้งสองท่านนี้ ณ ศูนย์กลางเกี่ยวกับเรื่องราวของท่านทั้งสองไม่ใช่ของขวัญหรือความสามารถของตัวตัวท่านเอง ณ ศูนย์กลางเป็นการที่ได้พบกับพระเยซูคริสต์ซึ่งเปลี่ยนชีวิตของท่านทั้งสอง ท่านนักบุญได้รับประสบการณ์จากความรักที่เยียวยารักษาตัวท่านและทำให้ท่านเป็นไท แล้วท่านทั้งสองก็กลายเป็นอัครธรรมทูตและศาสนบริกรด้วยความเป็นไทให้กับผู้อื่น
เปโตรและเปาโลเป็นไทเพราะท่านทั้งสองถูกทำให้เป็นไท ขอให้พวกเราพิจารณาไตร่ตรองถึงประเด็นสำคัญนี้
เปโตรเป็นชาวประมงที่กาลิลีท่านได้รับความเป็นไทเหนือสิ่งใดจากจิตสำนึกถึงการไร้ซึ่งความสามารถของตนเอง และประสบการณ์ที่ขมขื่นแห่งความล้มเหลวของตนซึ่งต้องขอบคุณความรักอันปราศจากเงื่อนไขของพระเยซูคริสต์ แม้ท่านเป็นชาวประมงที่เชี่ยวชาญ หลายครั้งในยามดึกท่านก็ผิดหวังเพราะความล้มเหลวจับปลาไม่ได้เลย (เทียบ ลก. 5: 5; ยน. 21: 5) และเมื่อเห็นอวนที่ว่างเปล่าท่านก็เริ่มจับไม้พายเพื่อที่จะพายเรือกลับขึ้นฝั่ง แม้จะเป็นคนแข็งแรงและใจร้อน บ่อยครั้งเปโตรก็เป็นคนขี้กลัว (เทียบ มธ. 14: 30) แม้ว่าท่านเป็นศิษย์ที่ร้อนรนของพระเยซูคริสต์ท่านก็ยังมีความคิดตามมาตรฐานโลก ดังนั้นท่านจึงไม่เข้าใจและไม่ยอมรับความหมายแห่งไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ (เทียบ มธ. 16: 22) แม้กระทั่งหลังจากกล่าวว่าเขาพร้อมที่จะมอบชีวิตของตนให้กับพระเยซูคริสต์ เพียงแค่สงสัยว่าตัวท่านเป็นศิษย์คนหนึ่งของพระเยซูคริสต์ก็ทำให้ท่านกลัวจนถึงกับปฏิเสธพระอาจารย์ (เทียบ มก. 14: 66-72)
อย่างไรก็ดีพระเยซูคริสต์ทรงรักเปโตรและพร้อมที่ยอมเสี่ยงกับเปโตร พระองค์ให้กำลังใจเปโตรไม่ให้ยอมแพ้ ขอให้ลงอวนไปอีกครั้งหนึ่ง ให้เดินบนน้ำ ให้พบกับพลังที่จะยอมรับความอ่อนแอของตน ให้ติดตามพระองค์ไปในเส้นทางแห่งไม้กางเขน ให้อุทิศชีวิตของตนเพื่อบรรดาพี่น้อง ให้เลี้ยงดูฝูงแกะของพระองค์ ด้วยวิธีนี้พระเยซูคริสต์ทรงทำให้เปโตรเป็นไทจากความกลัว จากการคำนวณที่มีพื้นฐานในสิ่งตามความคิดของโลกเท่านั้น พระองค์ประทานความกล้าให้กับเปโตรที่จะเสี่ยงกับทุกสิ่งและความชื่นชมยินดีที่เป็นนักประมงจับมนุษย์ เป็นเปโตรนี่เองที่พระเยซูคริสต์ทรงเรียกให้สร้างบรรดาพี่น้องให้เข้มแข็งในความเชื่อ (เทียบ ลก. 22: 32) ดังที่พวกเราได้ฟังจากพระวรสารพระองค์ทรงประทานกุญแจให้เปิดประตูอันจะนำไปสู่การพบปะกับพระเยซูคริสต์และอำนาจที่จะทั้งให้อภัยและไม่ให้อภัยบาปกับบรรดาพี่น้อง และแก้ปมและโซ่ในชีวิตของพวกเขา (เทียบ มธ. 16: 19)
ทุกสิ่งเหล่านั้นเป็นไปได้ก็เพราะ – อย่างที่ได้ยินในบทอ่านแรก – เปโตรเองได้รับความเป็นไท โซ่ตรวนที่ล่ามท่านเป็นนักโทษถูกทุบแตกกระจาย และในคืนที่ชาวอิสราเอลได้รับอิสรภาพจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ ท่านถูกปลุกให้ลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ รัดเข็มขัด ใส่รองเท้าแตะ เพื่อที่จะออกไปจากคุก พระเยซูคริสต์ก็ทรงเปิดประตูต่อหน้าต่อตาท่าน (เทียบ กจ. 12: 7-10) ณ จุดนี้พวกเราจะเห็นประวัติศาสตร์ใหม่แห่งการเปิด การทำให้เป็นไท โซ่ตรวนที่หักสะบั้น การออกจากบ้านแห่งการเป็นทาส เปโตรมีประสบการณ์แห่งการผ่าน พระเยซูคริสต์ทรงทำให้ท่านเป็นไท
อัครธรรมทูตเปาโลก็มีประสบการณ์ของการที่พระเยซูคริสต์ทรงทำให้ท่านเป็นไทเช่นเดียวกัน ท่านถูกทำให้เป็นไทจากรูปแบบของความเป็นทาสที่ถูกกดขี่รุนแรงที่สุดซึ่งทำให้ตนเองตกเป็นทาสด้วย จากเซาโลซึ่งเป็นชื่อของกษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล ท่านกลายเป็นเปาโลซึ่งหมายความว่า “ตัวเล็ก” ท่านยังถูกปลดปล่อยให้เป็นไทจากความร้อนรนทางศาสนาซึ่งทำให้ท่านกลายเป็นผู้ปกป้องที่ร้อนรนแห่งขนบธรรมเนียมประเพณีของบรรพบุรุษ (เทียบ กท. 1:14) และเป็นผู้เบียดเบียนที่เหี้ยมโหดต่อคริสตชน เมื่อได้รับความเป็นไทแล้วการปฏิบัติตามศาสนาอย่างเป็นทางการและการปกป้องขนบธรรมเนียมโบราณของตนแทนที่ ท่านเปิดใจกว้างสู่ความรักต่อพระเจ้า ทว่าพี่น้องชายหญิงของท่านกลับทำให้ท่านใจแข็งกระด้างขึ้นไปอีก ท่านเป็นพวกพื้นฐานนิยม เคร่งครัดแบบเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พระเจ้าทรงทำให้ท่านเป็นไทจากสิ่งนี้ แต่พระองค์ก็ไม่ได้ยกเว้นให้ท่านสิ้นความอ่อนแอและความยากลำบากซึ่งทำให้การประกาศพระวรสารของท่านบังเกิดผลมากขึ้น ความเหน็ดเหนื่อยจากการแพร่ธรรม ความอ่อนแอของร่างกาย (เทียบ กท. 4:13-14) การใช้ความรุนแรงและการเบียดเบียน เรือล่ม ความหิวกระหาย และจากการที่ท่านบอกพวกเรา จากหนามที่ทิ่มแทงร่างกายอย่างเจ็บปวด (เทียบ 2 คร. 12: 7-10)
เปาโลรับรู้อย่างดีว่า “พระเจ้าทรงเลือกผู้ต่ำต้อยในโลกเพื่อที่จะทำให้คนที่แข็งแรงอับอาย” (1 คร. 1: 27) พวกเราสามารถทำทุกสิ่งได้โดยอาศัยพระองค์ผู้ทรงจะประทานพละกำลังให้พวกเรา (เทียบ ฟป. 4: 13) และไม่มีสิ่งที่จะพรากเราไปจากความรักของพระองค์ได้ (เทียบ รม. 8: 35-39) ด้วยเหตุนี้เมื่อวาระสุดท้ายแห่งชีวิตมาถึงดังที่พวกเราได้ฟังในบทอ่านที่สองเปาโลสามารถที่จะกล่าวว่า “พระเยซูคริสต์จะทรงยืนอยู่เคียงข้างข้าพเจ้า” และ “พระองค์จะทรงช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากการโจมตีชั่วร้ายทั้งปวง” (2 ทธ. 4: 17) เปาโลมีประสบการณ์แห่งปัสกา พระเยซูคริสต์ทรงทำให้ท่านเป็นไท
ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก พระศาสนจักรมองไปยัง ผู้ยิ่งใหญ่สองท่านแห่งความเชื่อนี้และทรงเห็นอัครธรรมทูตสองคน ที่ทำให้อำนาจแห่งพระวรสารเป็นไทในโลก ทั้งนี้เป็นเพราะประการแรกท่านเองได้รับความเป็นไทด้วยการพบกับพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์มิได้ตัดสินท่านหรือดูถูกท่าน ตรงกันข้ามพระองค์ทรงแบ่งชีวิตของพระองค์ด้วยความรักและความใกล้ชิด พระองค์สนับสนุนท่านด้วยการอธิษฐานภาวนา และบางครั้งก็ตำหนิท่านเพื่อที่จะให้ท่านเปลี่ยนแปลง สำหรับเปโตรพระเยซูคริสต์ทรงกล่าวอย่างนิ่มนวลว่า “เราอธิษฐานสำหรับท่านเพื่อไม่ให้ความเชื่อของท่านหวั่นไหว” (ลก. 22: 32) และสำหรับเปาโล “เซาโล เซาโล ทำไมท่านเบียดเบียนเรา?” (กจ. 9: 4) พระองค์ทรงกระทำเช่นเดียวกันกับพวกเรา พระองค์ทำให้พวกเรามั่นใจถึงความใกล้ชิดของพระองค์ด้วยการอธิษฐานภาวนาและวิงวอนเพื่อเราต่อพระพักตร์พระบิดา และจะทรงเตือนใจพวกเราอย่างนิ่มนวลเมื่อพวกเราหลงทาง เพื่อที่พวกเราจะได้พบกับพลังที่จะลุกขึ้นและทำการเดินทางต่อไป
พวกเราก็เช่นเดียวกันที่ได้รับการสัมผัสจากพระเยซูคริสต์ พวกเราก็เช่นเดียวกันที่ได้รับความเป็นไท พวกเราได้รับความเป็นไทครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะว่าโดยผ่านทางพระศาสนจักรที่เป็นไทเท่านั้นจึงจะเป็นพระศาสนจักรที่มีความน่าเชื่อถือ เฉกเช่นนักบุญเปโตรพวกเราถูกเรียกให้ต้องเป็นไทจากจิตสำนึกแห่งความล้มเหลวในการจับปลาของพวกเราที่บางครั้งล้มเหลว เพื่อที่จะเป็นไทจากความกลัวที่ทำให้พวกเราเป็นง่อย ที่ทำให้พวกเราเป็นที่หลบภัยในความปลอดภัยของตัวเราเอง และขโมยความกล้าของพวกเราที่จะประกาศพระวรสาร เฉกเช่นเปาโลพวกเราถูกเรียกให้เป็นไทจากการแสดงออกภายนอกแบบคนสองหน้า เป็นไทจากการล่อลวงที่จะอวดตัวด้วยอำนาจของโลกแทนที่จะด้วยความอ่อนแอที่เปิดพื้นที่ให้กับพระเจ้า เป็นไทจากความศรัทธาที่ทำให้พวกเราแข็งกระด้างแทนที่จะยืดหยุ่น เป็นไทจากการอิงกับการหวงอำนาจอันน่าสงสัยซึ่งกลัวที่จะถูกเข้าใจผิดและถูกโจมตี
เปโตรและเปาโลมอบพระศาสนจักรไว้ในมือของพวกเรา แต่ต้องได้รับการชี้นำจากพระเยซูคริสต์ด้วยความซื่อสัตย์และด้วยความรักที่อ่อนโยน เพราะเป็นพระองค์เองที่ทรงชี้นำพระศาสนจักร ต้องเป็นพระศาสนจักรที่สุภาพอ่อนน้อมแม้แลดูอ่อนแอ แต่ก็มีพลังในการประทับอยู่ของพระเจ้า ภาพของพระศาสนจักรที่เป็นไทและสามารถที่จะมอบความเป็นไทให้กับโลกซึ่งโลกเองไม่อาจที่จะมอบให้กับตนเอง ความเป็นไทจากบาปและความตาย จากการยอมจำนวน จากจิตสำนึกแห่งความอยุติธรรม และการสูญเสียความหวังที่ทำให้ชีวิตของพวกเราไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ของสตรีและบุรุษในยุคสมัยของพวกเรา
วันนี้ให้พวกเราวิงวอนในการเฉลิมฉลองนี้และภายหลังด้วย ทั้งในเมือง สังคม ชุมชน และโลกของพวกเราต้องการความเป็นไทนี้ในระดับไหน? พวกเราต้องทำลายโซ่ตรวนสักกี่เส้นและประตูที่ปิดตายมาช้าน้านกี่บานที่ต้องเปิดออก จึงสามารถที่จะนำเอาความเป็นไทนี้มามอบให้ได้ เว้นแต่ว่าสิ่งแรกสุดพวกเราต้องเป็นไทเองก่อนจากความใหม่ของพระเยซูคริสต์และเดินไปตามความเป็นไทแห่งพระจิต
วันนี้บรรดาอาร์บิชอปใหม่ได้รับเครื่องสมณยศ เรียกว่า “ปัลลีอุม – pallium” เครื่องหมายแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกับเปโตรนี้เรียกร้องถึงพันธกิจของผู้เลี้ยงแกะที่ดีซึ่งมอบชีวิตให้กับฝูงแกะ นี่เป็นการมอบชีวิตของตนเอง ผู้เลี้ยงแกะที่ดีจะเป็นไทแล้วจึงจะกลายเป็นเครื่องมือแห่งการนำความเป็นไทมาสู่บรรดาลูกแกะพี่น้องชายหญิง วันนี้ก็เช่นเดียวกันท่ามกลางพวกเรามีผู้แทนจากคณะสมเด็จอัยกาเพื่อความเป็นเอกภาพของคริสตชน ซึ่งสมเด็จอัยกาบาร์โธโลมิวทรงส่งมาร่วมพิธีกับพวกเราในโอกาสนี้ การมาของคณะผู้แทนฯ เป็นเครื่องหมายทรงคุณค่าแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันในการเดินทางแห่งความเป็นไทจากระยะทางห่างไกล ซึ่งสร้างความเป็นที่สะดุดในการที่ผู้มีความเชื่อในพระเยซูคริสต์แตกแยกกัน ขอบคุณสำหรับการมาเยือนของพวกท่านในครั้งนี้
พวกเราอธิษฐานภาวนาสำหรับพวกท่าน สำหรับผู้นำพระศาสนจักร ผู้เลี่ยงแกะทุกคน สำหรับพระศาสนจักรและสำหรับพวกเราทุกคน เพื่อว่าเมื่อพวกเราได้รับความเป็นไทจากพระเยซูคริสต์แล้ว พวกเราจะได้เป็นอัครธรรมทูตแห่งความเป็นไทไปทั่วโลก
(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บบทเทศน์พระสันตะปาปามาแบ่งปันและไตร่ตรอง)