วันอาทิตย์, 20 เมษายน 2568
  

นครรัฐวาติกันขยายเวลาให้พระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ มีเวลาการไตร่ตรองเพิ่มขึ้น

นครรัฐวาติกันขยายเวลาให้พระศาสนจักรท้องถิ่นต่างๆ มีเวลาการไตร่ตรองเพิ่มขึ้น เพื่อขอให้สัตบุรุษมีโอกาสแสดงความคิดเห็นกระบวนการซีนอดอย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น

พระสันตะปาปาฟรานซิสเข้าร่วมในเวลาแห่งการไตร่ตรองเพื่อการเปิดประชุมซีนอด ณ ห้องประชุมซีนอดใหม่ วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2021

นครรัฐวาติกัน วันที่ 29 ตุลาคม 2021

        นครวาติกันได้ประกาศเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2021 ว่าจะขยายเวลาเพิ่มขึ้นให้กับพระศาสนจักรท้องถิ่นทั่วโลก เพื่อการปรึกษาหารือกัน การแสดงความคิดเห็นในระดับท้องถิ่นก่อนการประชุมซีนอดใหญ่ในปี ค.ศ. 2023

        เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการซีนอด แถลงว่าสภาบิชอปคาทอลิกทั่วโลก บัดนี้สามารถส่งเอกสารสังเคราะห์ข้อสรุปแห่งการปรึกษาหารือของตนได้จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2022

        คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องกระบวนการซีนอดระยะสองปี ตอนแรกได้ขอร้องให้ส่งเอกสารย่อ ๆ ดังกล่าวภายในเดือนเมษายน 2022 คือภายใน 6 เดือน หลังขั้นตอนในเขตศาสนปกครองต่าง ๆ ที่เพิ่งทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยพระสันตะปาปาฟรานซิสเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021

        การเปลี่ยนนี้หมายความว่า บัดนี้พระศาสนจักรท้องถิ่น แต่ละเขตศาสนปกครอง(สังฆมณฑล) จะมีเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 10 เดือน ที่จะดำเนินกระบวนการปรึกษาหารือกัน หรือการแสดงความคิดเห็น ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

        เชื่อว่าเขตศาสนปกครองต่าง ๆ คงเต็มใจที่จะตอบรับการขยายระยะเวลานี้เนื่องจากผู้ดำเนินการประชุมซีนอดได้ขอร้องให้ประชากรของพระเจ้า ซึ่งหมายถึง “ผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปแล้วทุกคน” ให้พวกเขามีโอกาสเข้ามาอยู่ในกระบวนการปรึกษาหารือ ไม่เพียงแค่บุคคลที่ไปวัดเป็นประจำเท่านั้น แต่ต้องรวมบุคคลที่ห่างเหินไปจากวัดด้วย

        หนังสือคู่มือสำหรับกระบวนการซีนอดระดับเขตศาสนปกครองระบุว่า “ควรใส่ใจเป็นพิเศษที่จะรวมถึงบุคคลเหล่านั้นที่อาจเสี่ยงในการถูกตัดออกไป เช่น สตรี คนพิการ ผู้อพยพย้ายถิ่น ผู้ลี้ภัย คนชรา คนที่ดำเนินชีวิตในความยากจน คาทอลิกที่เกือบจะไม่เคยหรือไม่เคยปฏิบัติความเชื่อ หรือเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมของวัด ฯลฯ”

        สำนักเลขาธิการซีนอด กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “การสื่อสารเข้ามากมายที่สำนักงานส่วนกลางได้รับในสัปดาห์แรกๆ เกี่ยวกับกระบวนการของซีนอด จากสภาบิชอปคาทอลิกฯ ซึ่งได้เปิดขั้นตอนแรกของกระบวนการในการก้าวเดินไปด้วยกัน – ซึ่งหัวข้อ คือ “สำหรับพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน: ความเป็นหนึ่งเดียวกัน การมีส่วนร่วม และพันธกิจของพระศาสนจักร” – โดยการปรึกษาหารือกับประชากรของพระเจ้า เรารู้สึกกตัญญูกับทุกสิ่งเหล่านี้”

        เลขาธิการซีนอดกล่าวว่า “ในระยะนี้เราได้ยินมาซ้ำแล้วซ้ำอีกจากหลายฝ่ายถึงการขอร้องให้ยืดเวลาในกระบวนการขั้นตอนแรกโดยการขยายระยะเวลาออกไปอีก เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้กว้างขึ้นสำหรับประชากรของพระเจ้า ที่พวกเขาจะได้มีประสบการณ์อย่างแท้จริงในการการฟังและการเสวนา”

        คณะกรรมาธิการแต่ละฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า “เมื่อได้รับรู้ว่าพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกันเป็นพระศาสนจักรที่ฟังจริง ๆ โดยถือว่านี่เป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อมีการประเมินการขอร้องนี้และเพื่อแสวงหาความดีงามของพระศาสนจักรที่ประชุมสมัยสามัญของซีนอด จึงตัดสินใจขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2022 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายสำหรับการส่งเอกสารสรุปของการปรึกษาหารือจากสภาบิชอปฯ จากพระศาสนจักรจารีตตะวันออก พระศาสนจักรคาทอลิกจารีตตะวันออกที่มีอำนาจปกครองตนเอง และหน่วยงานพระศาสนจักรอื่นๆ”

An infographic showing the timeline for the synod on synodality. Vatican Media.

        ตามแผนการเดิม นครรัฐวาติกันได้ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2021 ว่า กระบวนการที่นำไปสู่การประชุมซีนอดเกี่ยวกับการก้าวเดินไปด้วยกันจะเริ่มขั้นตอนแรก ที่กำลังเกิดในแต่ละเขตศาสนปกครองบ กำหนดการเดิมอยู่ในระหว่างเดือนตุลาคม 2021 ไปจนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 2022

        ขั้นตอนที่ 2 จะเป็นระดับภาคพื้นทวีป ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน 2022 จนถึงเดือนมีนาคม 2023

        ขั้นตอนที่ 3 จะเป็นระดับสากล ซึ่งจะเริ่มด้วยการประชุมซีนอดสมัยสามัญครั้งที่ 16 แห่งซีนอดบรรดาบิชอป ณ นครรัฐวาติกัน ในเดือนตุลาคม 2023

        ทว่า ในการปราศรัยกับชาวคาทอลิกแห่งเขตศาสนปกครอง (สังฆมณฑล) ที่กรุงโรมในเดือนกันยายน ค.ศ. 2021 พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเน้นย้ำถึงความสำคัญของขั้นตอนแรกแห่งกระบวนการของการก้าวเดินไปด้วยกัน

        พระสันตะปาปา ตรัส “เมื่อพูดถึงกระบวนการก้าวเดินไปด้วยกัน ขั้นตอนแรกของเขตศาสนปกครอง (สังฆมณฑล) ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะ ณ ที่นั้นจะต้องรวมถึงการฟังทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาป ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ผิดพลั้งในจิตสำนึกอันแท้จริงในความเชื่อที่พวกเขาได้เชื่อ (sensus fidei in credendo)

ขอขอบคุณสำนักข่าวแห่งสันตะสำนัก นครรัฐวาติกัน

(วิษณุ ธัญญอนันต์ – เก็บเรื่องกระบวนการของซีนอดมาแบ่งปันและไตร่ตรอง)